~ซินเดอเรลล่ากับเจ้าชายรองเท้าแตะ~ จบบริบูรณ์ อัพเดทรวมเล่มค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ~ซินเดอเรลล่ากับเจ้าชายรองเท้าแตะ~ จบบริบูรณ์ อัพเดทรวมเล่มค่ะ  (อ่าน 160296 ครั้ง)

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
อ้างถึง
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะ ครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรัก ชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้าม แจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะ ปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของ แต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้าม จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิด เดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม

6.การ พูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอม ให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้าม ลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อ ขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ด นิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยาย ที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

16.นิยาย เรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วน หรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด ออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้าม แจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

18.ใคร จะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17

เวปไซต์ แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่าง ประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


**********************************************


หมายเหตุจากผู้แต่ง

นิยายเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นชื่อคน สถานที่ เนื้อเรื่องถูกแต่งขึ้นทั้งหมดจากจินตนาการของผู้แต่ง อาจจะมีคำไม่สุภาพบ้างนิดหน่อยในการแทนตัวของตัวละครหรือคำเขียนที่ผิดเพี้ยนจากคำที่ถูกต้องไปบ้าง เพื่อแสดงอารมณ์ของตัวละครในบทสนทนา แต่จะพยายามให้น้อยที่สุดนะคะ และหากเนื้อเรื่องตอนใดของนิยายเรื่องนี้ไปคล้ายคลึงชื่อใคร สถานที่ใด เรื่องใดก็ตามต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี่ด้วย แต่รับรองว่าเนื้อเรื่องทั้งหมดมาจากจินตนาการผู้แต่งล้วนๆค่ะ ขอให้สนุกกับนิยายเรื่องนี้นะคะ

---------------------


นิยายเรื่องอื่นๆของผู้แต่ง



ซินเดอเรลล่ากับเจ้าชายรองเท้าแตะ

รักวุ่นดีปีโป้ช่วยลุ้น ภาค 1 และ 2

จนกว่ารักจะทักทาย (18+)

เคลียร์คิวหัวใจเอาไว้ให้ความรัก


ซีรีส์ชาวเกาะ
ปรุงรักให้ลงล็อก
ปลดล็อกให้ความรัก
เพลงรักที่หายไป


มนตราแห่งมายัน
ภาค วสันตวิษุวัต
ภาค ครีษมายัน


เรื่องสั้น
ผู้โชคดี



[ทางไปเพจ Loverouter จิ้มเลย]
[ทางไปทวิต Loverouter จิ้มเลย]


---------------------
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-08-2019 12:51:17 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ ฝัullล้วlv

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
เอ บางทีคุณเมอาจไม่ได้ต้องการอะไรเลยก็ได้นา แต่บางทีอาจเป็นอย่างที่นาวคิดก็ได้ แม่ซินเดอเรลล่า

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
กาลครั้งหนึ่งความรัก : ซินเดอเรลล่ากับเจ้าชายรองเท้าแตะ

สารบัญ

ตอนที่ 1 , ตอนที่ 2 , ตอนที่ 3 , ตอนที่ 4 , ตอนที่ 5 , ตอนที่ 6 , ตอนที่ 7
ตอนที่ 8 , ตอนที่ 9 , ตอนที่ 10 , ตอนที่ 11 , ตอนที่ 12 , ตอนที่ 13 , ตอนที่ 14
ตอนที่ 15 , ตอนที่ 16 , ตอนที่ 17 , ตอนที่ 18 , ตอนที่ 19 , ตอนที่ 20 , ตอนที่ 21
ตอนที่ 22 , ตอนที่ 23 , ตอนที่ 24 , ตอนที่ 25 , ตอนที่ 26 , ตอนที่ 27 , ตอนที่ 28
ตอนที่ 29 , ตอนที่ 30 , ตอนที่ 31 , ตอนที่ 32 , ตอนที่ 33 , ตอนที่ 34 , ตอนที่ 35
ตอนที่ 36 , ตอนที่ 37 , ตอนที่ 38 ตอนจบ (1) , ต่อตอนจบ (2)



บทที่ 1


เอาละ ผมขอเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับตัวผมให้รู้ ผมชื่อปารมี ปิยดิษฐ์ ลูกชายคนเดียวของ ปิยะ ปิยดิษฐ์ ผู้กำกับละครชื่อดังในอดีต แม่ของผมสมัยวัยขบเผาะมีตำแหน่งเป็นรองนางสาวสยามเชียวนะ พ่อกับแม่แต่งงานกันหลังจากที่แม่ได้รับตำแหน่งเพียงแค่สามเดือนและทั้งคู่มีผมเป็นทายาทเพียงคนเดียว ผมได้เข้าวงการบันเทิงตั้งแต่ยังเดินไม่ได้ด้วยซ้ำ ขั้นแรกก็เริ่มจากโฆษณาก่อน พ่อเคยเล่าให้ฟังว่า ผมเป็นที่รักของสื่อมวลชนและประชาชน เพราะผมหน้าตาจิ้มลิ้ม แม่กับพ่อพาออกงานก็ไม่งอแง ยิ้มง่ายและไม่กลัวกล้องเลยสักนิด แต่แม่ก็อยู่กับผมได้ไม่นานแม่ก็เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง ผมจำเรื่องของแม่ไม่ได้เลยเพราะยังเด็กเกินไป ผมรู้จักแม่ผ่านอินเตอร์เน็ตด้วยซ้ำ แม่เป็นผู้หญิงสวย สวยมาก สวยกว่าคนได้ตำแหน่งนางสาวสยามปีนั้นด้วยซ้ำ ชิ กรรมการตาถั่วจริงๆ รอยยิ้มที่เหมือนนางฟ้า มีลักยิ้มน้อยๆ มีเขี้ยวด้วย ดูเป็นคนใจดี ถ้าแม่ยังอยู่ผมก็คงได้อ้อนแม่ ได้เห็นรอยยิ้มแบบนั้นทุกวัน ผมอยากให้แม่กอดผมเวลากลับมาจากทำงานเหนื่อยๆ แต่มันก็เป็นแค่ฝัน

..เฮ้อ กลับมาสู่โลกแห่งความจริงต่อครับ..

พอผมขึ้นมัธยมปลาย พ่อก็ขายบ้านที่ผมอยู่มาตั้งแต่เกิด แล้วก็พาผมมาที่บ้านหลังหนึ่ง พ่อบอกว่าผมจะมีแม่ใหม่ แม่ที่จะให้ความอบอุ่นกับผมได้ พ่อไม่ได้ถามผมสักคำว่าผมต้องการรึเปล่า แต่ผมไม่ได้โวยวายหรือขัดขวางการแต่งงานใหม่ของพ่อ เพราะผมได้รู้จากพี่ชัช ซึ่งเป็นผู้จัดการส่วนตัวของผม พี่ชัชเป็นญาติห่างๆของพ่อ พ่อให้พี่ชัชมาคอยดูแลเรื่องงานให้ผม พี่ชัชบอกว่าพ่อกำลังจะล้มละลาย พ่อมีหนี้สินเพราะขาดทุนกับการทำภาพยนตร์ที่พ่อไม่ถนัด เงินที่ได้มาจากการค่าตัวของผมที่สะสมมาตั้งแต่เด็กๆก็หมดไปด้วยกับการลงทุนของพ่อครั้งนี้ พี่ชัชบอกว่าคุณเมธาวีต้องการจะช่วยชำระหนี้พ่อทุกอย่าง แล้วผมจะทำอะไรได้ นอกจากยินยอมย้ายเข้ามาในบ้านหลังใหญ่หลังนี้แม้จะไม่เต็มใจก็ตาม ผู้หญิงที่ใช้เงินเพราะอยากแต่งงานกับพ่อของผม ผมควรเรียกเธอว่าแม่เหรอครับ

..เอาละ มาถึงครอบครัวของผู้หญิงที่ก้าวเข้ามาในชีวิตพ่อของผมบ้าง..

คุณเมธาวี กีรติกานต์ นักธุรกิจสาวเจ้าของบริษัทรถยนต์นำเข้าและบริษัทเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ หน้าตาของเธอก็ดูเรียบๆ ผมไม่ได้อคตินะ ผมว่าเธอดูเหมือนแม่บ้านธรรมดาๆคนหนึ่ง พ่อบอกว่าคุณเมธาวีเป็นแฟนคลับของพ่อตอนยังหนุ่มๆ พ่อตัดสินใจแต่งงานกับเธอเพราะเหตุผลที่พ่อไม่บอกแต่ผมได้รู้ ผมรู้สึกว่าพ่อไม่มีศักดิ์ศรีพ่อแต่งงานกับเธอเพื่อเงิน ผมยอมรับว่าผิดหวังและที่ยิ่งไปกว่าผิดหวังคือความเจ็บปวดเมื่อพ่อบอกว่า ผมจะสบายไม่ต้องทำงานเพราะคุณเมธาวีจะส่งเสียเลี้ยงดูผมเหมือนว่าผมเป็นลูกแท้ๆของเธอ ผมจะมีความสุขและมีอนาคตที่ดีถ้าได้อยู่ที่นี่

“พ่อทำแบบนี้เพื่อลูกนะนาว” พ่อผมได้กล่าวเอาไว้อีกเช่นกัน

แม่เลี้ยงของผมมีลูกติดมาสองคน คนโตเป็นผู้ชาย มันชื่อ ธีรดล หรือ ธีม มันเป็นผู้ชายเซอร์ๆแต่ผมว่ามันซกมก 555 ผมหยักศกสีดำสนิท ไว้หนวดไว้เคราหน่อยๆ หน้าตาคมเข้ม น่าแปลกใจที่ใบหน้ามันไม่เหมือนแม่มันเลยสักนิดเดียว เหมือนฝรั่งด้วยซ้ำ คงจะได้จากพ่อ แอบรู้มาว่าพ่อมันเป็นคนต่างชาติ ผิวของมันสีน้ำผึ้งครับ ไม่ขาวแบบฝรั่งทางยุโรป เลยไม่รู้ว่าพ่อมันเป็นคนชาติไหน แต่ที่แน่ๆตัวมันคงชาติหมา ฮ่าๆๆๆๆๆๆ  แค่ได้ด่ามันในใจผมก็มีความสุขแล้วครับ แต่ผมไม่รู้ว่าพ่อแม่มันเลิกกันเพราะอะไร มีคนเคยชวนมันไปเป็นดาราเหมือนกัน แต่มันปฏิเสธ มีถ่ายแบบบ้าง รูปร่างมันดีนะ ดีมากเลยทีเดียว มันชอบไปออกกำลังกาย คงอยากโชว์สาวๆ ผมยังแอบอิจฉากล้ามที่ท้องมันเลย ผมเป็นคนไม่ชอบออกกำลังกาย ไม่ชอบมีเหงื่อครับ เลยไม่มีกล้ามเนื้อสวยๆอย่างมัน ส่วนดวงตาของมันเวลามองมานี่คมกริบเหมือนตาเหยี่ยว แน่ละ ผมว่า ดวงตาคู่นั้นของมันคงมีไว้เพื่อผมจริงๆ หมายความว่ายังไงเหรอครับ ก็หมายความว่า มันชอบจับผิดผมนะสิ คอยจ้องจับผิดมาตลอดตั้งแต่เด็กๆ คอยจับตามองผมแทบจะทุกฝีก้าว ตอนผมย้ายมาอยู่ที่นี่ใหม่ๆ ผมไม่ค่อยยอมมันหรอกครับ มันแรงมาก็แรงไป จนมีเหตุการณ์หนึ่งที่ผมถูกพ่อตีที่ไปทะเลาะกับมัน เป็นครั้งแรกที่พ่อตีผมในเรื่องที่ผมไม่ผิด ผมเสียใจและน้อยใจพ่อมาก ถึงแม้ว่าแม่เลี้ยงของผมจะเข้าข้างผม แต่ผมรู้ว่าเขาทำเพื่อสร้างภาพให้พ่อชื่นชมมากกว่า เวลามีเรื่องกัน พ่อก็เข้าข้างครอบครัวใหม่ของพ่อตลอด ผมจึงเลือกที่จะทำตัวใหม่ ในเมื่อทุกคนชื่นชมกับการแสดงของผม ผมก็จะใช้มันเพื่อแก้คืนคนที่มันร้ายกับผมเช่นกัน ตั้งแต่นั้นมาผมก็ทำตัวหัวอ่อน ต่อหน้าไม่เคยเถียงหรือทำตัวมีปัญหา แต่ลับหลังผมก็พยายามทำเรื่องให้ปวดหัวตลอด ไม่ว่าจะแกล้งเรียนไม่ดีบ้าง แกล้งมีข่าวกับคนนั้นคนนี้บ้างแต่แม่เลี้ยงผมก็ตามเคลียร์ได้ทุกที อำนาจเงินนี่ทำได้ทุกอย่างจริงๆ

พอโตขึ้นมาหน่อยไอ้ธีมกับผมก็ไม่ค่อยทะเลาะกันเหมือนตอนเด็กๆ มันจะออกแนวเมินใส่ผม หน้าก็ไม่ค่อยจะมอง มีปะทะฝีปากกันบ้างตามโอกาสจะอำนวย แต่ไอ้เรื่องคอบจับผิดนี่มีมาตลอด ตอนเด็กๆมันจะรีบฟ้องคุณเม แต่หลังๆมันจะเอามาขู่ผมมากกว่า มันบอกว่าสะสมแต้มรอเวลาสะสางทีเดียว แหม แกเป็นพนักงานเซเว่นเหรอครับ มีสะสมแต้มแลกรางวัลด้วย   
ส่วนคนที่สองเป็นผู้หญิง เธอชื่อ ธีรนี หรือธาร เธอสวยครับ สวยเฉี่ยวๆ สวยแบบไม่ยอมคน แต่ผมกับพี่สาวนอกไส้คนนี้ไม่ค่อยยุ่งกัน ธารเป็นเน็ตไอดอล ชอบแต่งตัว ชอบปาร์ตี้ ไม่ค่อยกลับบ้าน จริงๆผมก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับพี่สาวนอกไส้คนนี้ แต่เวลาที่ผมต้องทะเลาะกับพี่ชายของเธอ เธอชอบทำหน้าเบื่อๆและไม่เคยเข้าข้างผมเลยสักครั้ง มันก็ธรรมดา เพราะผมไม่ได้เป็นอะไรกับเธอเลย ในสายตาของเธอผมคงเหมือนกาฝากที่มาเกาะครอบครัวของเธอมั๊ง ธารอายุมากกว่าผมไม่กี่เดือนเอง เอาเป็นว่า ถึงธารจะไม่ชอบผม แต่ไม่หาเรื่องผม ผมก็โอเคนะ ต่างคนต่างอยู่แล้วกัน

“ถึงธารจะอายุมากกว่านาวไม่กี่เดือน แต่นาวต้องนับถือเขาเป็นพี่ รู้ไหมลูก เรียกเขาว่าพี่ธารนะ” พ่อผมได้กล่าวเอาไว้อีกแล้วครับท่าน

จริงๆแล้วพ่อผมกล่าวไว้หลายคำเลยละครับตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ เป็นคำสอนที่ให้ผมคอยสำนึกบุญคุณคุณเมและให้ดีต่อครอบครัวใหม่ที่พ่อหามาให้ผม ราวกับว่าเป็นของขวัญชิ้นพิเศษที่มอบให้ก่อนที่ตัวเองจะจากไป พ่อแต่งงานใหม่ได้ปีกว่าๆก็ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ทำให้เสียชีวิตในทันที ผมรู้สึกเคว้งคว้างมากในตอนนั้น ญาติพี่น้องคนอื่นก็ไม่มี มีแค่เพียงพี่ชัชที่ยังคอยดูแลผมในเรื่องงานและสามคนนั้นที่สังคมรับรู้ว่าเป็นครอบครัวผม แต่จริงๆแล้วมันไม่ใช่ พวกเขาไม่ใช่ครอบครัว

..ตั้งแต่พ่อตาย ผมก็รู้สึกได้ว่า ผมไม่เหลือใครอีกแล้วจริงๆ...

ในตอนนี้ ถึงผมจะยังมีงานในวงการสม่ำเสมอ มีเงินดูแลตัวเองได้ แต่มันก็ยังไม่มากพอที่จะซื้อบ้านหลังเดิมที่ผมเคยอยู่กับพ่อแม่ตั้งแต่เกิด ผมมารู้ทีหลังว่าพ่อผมขายบ้านหลังนั้นให้กับคุณเมธาวีในราคาที่สูงลิบ สูงกว่าราคาบ้านมากๆ คุณเมยอมซื้อในราคานั้นเพราะอยากช่วยพ่อ แต่ถึงยังไงผมก็ต้องการมันคืน คุณเมธาวีบอกว่าจะคืนให้โดยไม่คิดเงินถ้าผมเรียนจบ แต่ผมไม่เอาหรอก บุญคุณมันจะไม่มีวันหมดเสียที ถึงไอ้เกลือจะบอกว่าผมโง่ที่จะซื้อบ้านในราคาสูงแบบนั้นคืน ซื้อบ้านใหม่เสียดีกว่า แต่สำหรับผมมันเป็นการเรียกศักดิ์ศรีของตัวเองคืนมา คงอีกไม่นาน เมื่อวันนั้นมาถึงผมคงมีความสุข มีอิสระ และไม่ต้องเสแสร้งเป็นลูกที่ดีแบบทุกวันนี้อีกต่อไป

“แกคงเป็นซินเดอเรลล่าที่ไม่น่าสงสารที่สุดในนิทาน แกมันร้ายกาจ” ไอ้เกลือกล่าวแบบติดตลกเอาไว้ แต่มันไม่ตลกเลยสำหรับผม เพราะผมไม่ได้ร้ายกาจ ชีวิตผมน่ารันทดจะตายไป

เอาเถอะ ถึงผมอาจจะดูไม่น่าสงสารอย่างที่ไอ้เกลือมันบอกก็ไม่เห็นเป็นไร เพราะผมไม่ได้อยากให้ใครมาสงสารอยู่แล้ว เล่าเรื่องชีวิตผมให้ฟังจบผมก็แต่งตัวเสร็จพอดี ยกนาฬิกาขึ้นดู โอ้..นี่ผมใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวไปแค่ชั่วโมงกว่าๆเอง ตั้งใจให้ถึงสองชั่วโมงด้วยซ้ำ เฮ้อ พี่ชายที่น่ารักของผมคงรออยู่แทบนับวินาทีกันเลยทีเดียว ถึงจะอยากช้ากว่านี้แต่ก็ต้องไปแล้วครับ ไปสายแล้วไอ้เกลือมันตัดความช่วยเหลือเรื่องเรียนผมแย่แน่ ผมต้องทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยนี่ครับ ก็ต้องมีตัวช่วยกันหน่อย

“กว่าจะเสด็จ” เอาละครับ มันเริ่มแขวะตามความคาดหมายผมเหลือบไปมองมันแล้วนึกเยาะในใจ ‘มันหวีผมบ้างไหมนี่’ เอาใหม่ๆ ผมถามใหม่ดีกว่า‘แกอาบน้ำบ้างไหมครับไอ้ธีม’ แต่จะว่าไปตัวมันก็ไม่เหม็นหรอกนะ ไอ้ที่เหม็นขี้หน้ามันมากกว่า ไม่อยากจะมองให้เสียอารมณ์

“น้องธีม” เสียงปรามของคุณเมทำให้มันส่งเสียงจิ๊จ๊ะแบบหงุดหงิด

“ผมขอโทษครับที่ช้า ไปกันเลยก็ได้ครับ” ผมบอก

“ไม่ต้องมาทำเป็นรีบตอนนี้หรอก กินข้าวให้เสร็จก่อนเลย เดี๋ยวพี่จะเหยียบมิด รับรองว่าน้องนาวไปสอบทันแน่ๆ” มันพูดแล้วยิ้มร้ายส่งมาอย่างเปิดเผย เออ ข้าเชื่อ! ถ้าลองมันจะแกล้งผม มันทำได้ทุกอย่างแหละครับ

“ไม่เอา ขับช้าๆนะธีม อย่าเถียงกัน มากินอาหารเช้าก่อนน้องนาว แม่โทรไปหาอาจารย์ให้แล้วว่าน้องนาวไม่สบายจะไปช้าหน่อย มากินข้าวมาลูก แล้วเดี๋ยวน้องนาวมีงานโชว์ตัวตอนเย็นที่ห้างXX พี่ชัชเขาโทรมาว่าไม่ว่าง แม่จะให้พี่ธีมไปรับนะคะ”

“แม่ ถามผมยังว่าผมว่างรึเปล่า” มันโวยวาย

“ผมไปเองได้ครับคุณเม”

“ไม่ได้ค่ะ พี่ธีมจะไปรับส่ง น้องนาวรอที่มหา’ลัยนะคะ แล้วพี่ธีมก็จะรอรับกลับบ้านด้วยเลย ตามนั้นนะคะ” คุณเมธาวีจบบทสนทนาก่อนจะเดินมารินนมให้ผม ไอ้คนข้างๆมันถอนหายใจและจิ้มไส้กรอกแรงๆเหมือนระบายอารมณ์ ผมก็เซ็งไม่ต่างจากมันหรอกนะ ทำไมต้องจุ้นจ้านโทรไปหาอาจารย์เพื่อเลื่อนเวลาให้ผม ทำไมต้องทำให้ผมรู้สึกอึดอัดได้ทุกครั้ง ทำไมต้องเจ้ากี้เจ้าการในสิ่งที่ผมไม่ได้ขอร้อง ชีวิตผมเจอแบบนี้มาแทบจะทั้งชีวิต พ่อก็ตายไปแล้ว ไม่รู้จะว่าแสร้งมาทำดีทำไมอีก 

“พี่ไปรอที่รถนะ” มันลุกขึ้นหยิบฉันญแจแล้วเดินออกไปจากบ้าน ผมก้มหน้ากินเงียบๆ มันก็คงเหมือนแม่ของมัน จอมสร้างภาพ ต่อหน้าแม่ตัวเองก็จะแทนตัวเองว่าพี่อย่างนั้นพี่อย่างนี้ บางทีก็มีลงท้ายว่าครับจนผมขนลุก ลับหลังก็ชอบใส่อารมณ์กับผมแทบจะทุกที ผมเล่าให้เพื่อนสนิทในกลุ่มฟัง ทุกคนก็บอกว่า...

“ก็แกกวนตีนใส่พี่เขาตลอด เขาพูดดีๆ แกก็ชอบให้เขาโมโห อีกอย่าง ใครๆก็ดูออกว่าแกไม่ชอบคุณน้า นั่นมันแม่เขานะแก สมควรปะวะที่เขาจะไม่ชอบหน้าแกเหมือนกัน” เพื่อนทั้งกลุ่มได้กล่าวไว้ แม่มมม ไม่มีใครเข้าข้างผมเลย ไหนว่าผมไม่น่าสงสาร ไม่จริงเลยครับ ผมน่าสงสารมาก ถูกรุมสุดๆ มันต่างหากที่ชอบกวนโมโหผม แต่มันชอบทำลับหลัง ต่อหน้าทุกคนมันก็ทำตัวเป็นพี่ที่ดี สักวันจะผมหน้ากากมันออกมาให้ทุกคนได้เห็น

“วันนี้พี่มีงานอัดเสียงที่ห้องอัด งานโชว์ตัวนาวเริ่มหกโมงเย็น นาวสอบเสร็จบ่ายสอง พี่จะไปรับนาวมาที่ห้องอัดก่อน เสื้อผ้าพี่ชัชเอาไปไว้ให้ที่ห้องอัดแล้ว แล้วพี่จะพาไปถึงที่งานตอนใกล้ๆห้าโมง อย่าให้รอนานนะบอกไว้ก่อน” มันสั่งเป็นชุดทันทีที่ผมเข้ามานั่งในรถบีเอมคันงามของมัน อ่อ พูดถึงห้องอัดเสียง มันเป็นนักร้องอินดี้ครับ ทำเพลงเอง อัดเอง ขายงานเอง ผมเคยฟังเพลงมันนะ ก็ออกแนวๆใต้ดิน แต่ก็ไม่เห็นจะดัง ก็งี้แหละครับ คนมันไม่มีวาสนา อยู่ใต้ดินเป็นไส้เดือนต่อไปเหอะแก ฮ่าๆ

“ไปเองก็ได้ ไม่เห็นต้องมาวุ่นวาย” ผมบ่นดังๆตั้งใจให้ได้ยิน

“ชีวิตคุณแค่แปรงฟังอาบน้ำเองได้ผมก็ว่าเก่งแล้วนะครับ อ่อ ยังดีอีกอย่างที่คุณฉี่เองได้ ไม่งั้นแม่ผมคงใส่แพมเพิสให้คุณแล้วละ ฮ่าๆๆๆ” มันพูดจาประชดประชันผมก่อนหัวเราะลั่นใส่ผม นึกแล้วโมโห เอ็งก็ช่วยไปบอกแม่เอ็งให้เลิกมาวุ่นวายกะผมสิครับไอ้คุณธีม

“เอาก็เก่ง อยากลองมะ” ผมยื่นหน้าไปถามใกล้ๆมัน มันหยุดหัวเราะทันทีก่อนจะดันหัวผมออกไปไกลๆตัวมัน

“โรคจิต” มันด่าผม คราวนี้เป็นผมบ้างที่หัวเราะใส่มัน มันมองหน้าผมแบบเกลียดชังก่อนจะออกรถไปแบบเหยียบมิดไมล์ ผมคาดเข็มขัดเรียบร้อย รู้ทางมันแล้วครับว่าพอเอาชนะผมไม่ได้เอะอะก็เหยียบมิด จะว่าไป มันต่างหากที่โรคจิต มันกลัวเกย์ครับ

   ..ทำไมผมรู้นะเหรอ?..


(((มีต่อข้างล่างนะคะ)))

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-03-2018 10:17:05 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
(ต่อจากด้านบนค่ะ)

...ทำไมผมรู้นะเหรอ...

ก็มันเคยพาเพื่อนคนหนึ่งมานอนที่บ้าน วันนั้นไม่มีใครอยู่บ้านเลย คุณเมกับธารไปเมืองนอก จริงๆผมก็ต้องไปถ่ายโฆษณาที่ภูเก็ต แต่ทีมงานโทรมาขอเลื่อน ผมเลยได้หยุดอยู่บ้าน เพื่อนสนิทของมัน ชื่อพี่อ้น พี่อ้นเป็นคนตัวเล็กๆหน้าตาน่ารัก พูดเก่ง เอาใจเก่ง ขนาดผมที่ไม่เคยชอบอะไรที่เกี่ยวพันกับตัวมัน แต่กับพี่อ้นผมกลับพูดคุยด้วยได้แบบสนิทใจ คืนนั้นผมหิวเลยลงมาข้างล่างตั้งใจว่าจะต้มมาม่ากิน พลันสายตาก็ดันไปเห็นอะไรบางอย่าง ในเงามืดตรงโซฟาที่มีแสงไฟจากโคมไฟในสวนส่องมาให้เห็นลางๆ ผมเห็นมันนั่งพิงโซฟาอยู่ พี่อ้นคุกเข่าตรงหน้ามัน ที่ทำให้ตกใจคือพี่อ้นกำลังกินน้องชายมันอย่าเอร็ดอร่อย แต่ผมไม่เห็นว่ามันทำหน้ายังไง มันนั่งนิ่งเฉย ไม่ได้ยินแม้แต่เสียง แต่ผมรีบเดินกลับขึ้นไปบนห้อง ความหิวหายไปเลย ไม่อยากจะเชื่อว่ามันกับพี่อ้นจะทำแบบนั้นในห้องรับแขก หรือเพราะมันอาจจะไม่รู้ว่าผมอยู่บ้าน พอตอนเช้าผมตื่นลงมาเจอมันกับพี่อ้นนั่งกินอาหารเช้าด้วยกัน มันแปลกใจที่เห็นผม แต่พี่อ้นดูตกใจ จากนั้นพี่อ้นก็ขอตัวกลับบ้านไป มันหันมาแขวะผมเรื่องที่ผมโดนนักข่าวเล่นข่าวเรื่องแอบขึ้นคอนโดสาว จากที่ผมว่าจะไม่ยุ่งเรื่องของมัน เจอมันทำหน้ากวนตีนใส่เลยทนไม่ไหวหันไปแขวะมันเรื่องเมื่อคืนบ้าง หน้ามันซีดอย่างเห็นได้ชัดเมื่อได้ยินสิ่งที่ผมพูด มันกระแทกแก้วน้ำลงบนโต๊ะจนผมตกใจ ทีแรกนึกว่าจะโดนมันต่อยแล้วครับเพราะมันดูโกรธมาก มันลุกขึ้นชี้หน้าบอกผมว่า ถ้าผมโกหกมันจะกลับมาต่อยผมให้หน้าแหกจนไปทำงานไม่ได้ แล้วมันก็ผลุนผันออกไป ผมไม่แน่ใจว่ามันไม่รู้เรื่องจริงๆว่าพี่อ้นด๊วบลูกชายมันหรือมันแกล้งไม่รู้เพราะอาย แล้วผมก็มารู้จากไอ้เกลือในตอนเย็นว่ามันทะเลาะอะไรกับพี่อ้นไม่รู้ที่ห้องอัด พี่อ้นร้องไห้แล้ววิ่งออกไปเลย อ่อ..ทำไมไอ้เกลือมันรู้เหรอครับ ก็พ่อมันเป็นเจ้าของห้องอัดที่ไอ้ธีมมันไปใช้บริการจนถึงทุกวันนี้แหละครับ มันอยู่ในเหตุการณ์พอดีเลยมาเล่าให้ผมฟัง จากนั้นมาผมก็ไม่ได้เห็นพี่อ้นมาที่บ้านอีกเลย ลาออกจากวงมันด้วย คุณเมถามถึงพี่อ้นมันก็ไม่ตอบ ได้แต่เหลือบมองผมแบบโกรธๆ เอ้า!..มาโกรธอะไรตูวะ ของๆมันแท้ๆยังให้คนอื่นมาด๊วบได้แล้วมาพาลคนอื่น คิดว่าผมจะสลดไหมครับที่มันส่งสายตาจูออนมาให้ ไม่เลยครับ ผมแลบลิ้นกระดกๆใส่มันอีกต่างหาก ผลคือ มันก็หัวเสียเดินเตะข้าวของออกไปนะสิครับ ฮ่าๆๆๆ นี่แหละ ไม้ตายของผมที่เอาไว้ใช้ยามเถียงสู้มันไม่ได้ จากนั้นมาเวลามันเจอเกย์มาวนเวียนใกล้ๆมันตอนที่ต้องคอยมารับส่งผมตามกองถ่าย มันจะหงุดหงิดทุกครั้งเลยครับ เล่ายาวเลย ถึงมหาวิทยาลัยเสียที

“กว่าจะมาได้นะแก ฉิวเฉียด ฉันนึกว่าคนทั้งห้องต้องมารอแกคนเดียวอีก” ไอ้เกลือสวดจบรีบลากผมขึ้นห้องสอบทันที

“มันไม่ใช่ความผิดฉันแกไปด่าแม่เลี้ยงฉันโน้นไอ้ซอลลลลตี้”ซอลตี้..คือชื่อภาษาอังกฤษของไอ้เกลือที่พวกผมตั้งให้ครับ ซอล์ทตี้ ดีแต่เค็ม เอ้ย เค็มแต่ดี

“ห่าน เรียกผมว่าเกลือเถอะครับ สำเนียงเอ็งฟังแล้วเหมือนโสนนนนตีล” มันค้อน ผมขำเอิ้กอ้าก มันก็เก่งนะ รู้ด้วยว่าผมตั้งใจหมายถึงส้นเท้าจริงๆนั่นแหละ

“ไอ้บูม ไอ้บิวอะกะคนอื่นๆอะ”ผมถามมัน

“ขึ้นห้องไปแล้ว มีฉันคนเดียวแหละที่รอแก เห็นรึยัง ใครเป็นเพื่อนรักแก เดี๋ยวเอารูปน้องแยมพร้อมลายเซ็นมาให้ฉันเป็นค่าตอบแทนด้วยนะ ขอรูปนมล้นๆนะแกนะ” มันทำหน้าเหมือนหมาอ้อนใส่ ผมได้แต่เบ้ปากให้มัน ไอ้หน้าหม้อเอ้ย

“ดูก่อน ถ้าแกทำตัวดีๆฉันจะสงเคราะห์ให้นะได้ซอลลลลตี้”

“แกมันร้ายไอ้นาว เช๊อะ” มันค้อนใส่เหมือนหญิงสาววัยกำดัด แกอย่าทำแบบนั้นอีกเลยไอ้เกลือ..ข้ากลัว ผมได้แต่นึกในใจ ถึงห้องสอบพอดี ผมทักไอ้บูมกับไอ้บิวก่อนจะเข้าที่นั่งและเตรียมตัวในการสอบที่กำลังจะเริ่มอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า

...

“โอ้ย เหลืออีกสามตัวก็ปิดเทอมละเว้ย” ไอ้บูมตะโกนลั่นลานชงโคหลังจากการสอบเสร็จสิ้นลงลานชงโคคือที่นั่งประจำของพวกผม ทุกคนหันมาตามเสียงก่อนจะขำท่าเต้นดึงดาวของไอ้บูมมัน

   กลุ่มผมค่อนข้างเป็นที่รู้จักในสังคมมหาวิทยาลัยเรามีกันทั้งหมด 7 คน เพราะทุกคนในกลุ่มส่วนใหญ่จะเป็นลูกหลานคนในวงการบันเทิงพวกมันต่างก็เป็นดารานายแบบ วนเวียนอยู่ในวงการวงบันเทิงตามรอยพ่อแม่ พวกผมไม่ได้เลือกคบกันเองนะครับ แต่เราสนิทกันมาตั้งแต่เด็กๆ เจอกันตามกองถ่ายบ้าง ตามรายการเกมโชว์บ้าง พ่อแม่เราสนิทกัน พาพวกเรามาเจอกันบ่อยๆตั้งแต่เด็กๆ แล้วก็มาเรียนที่เดียวกัน คณะเดียวกัน ผมจะแนะนำคร่าวๆนะครับ

ไอ้เกลือนี่พ่อมันโปรดิวเซอร์เพลงค่ายดัง เป็นนักแต่งเพลงด้วย มีห้องอัดให้เช่า ส่วนตัวมันเป็นนายแบบครับ  เห็นมันบ้าๆบอๆแบบนี้ มันติด 1 ใน 3 หนุ่มน่ากอดของนิตยสารดังมาสามปีซ้อนแล้วนะครับ

ไอ้บูมนี่ไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิง แต่ก็เป็นคนมีชื่อเสียง มันเป็นนักบอล ติดทีมชาติตามที่พ่อมันหวังไว้ พ่อมันเป็นโค้ชให้ทีมชาติมาหลายปีแล้วครับ หน้าตามันดีบวกกับความสามารถของมันทำให้มันเป็นขวัญใจแฟนบอลได้ไม่ยากเลย มีตั้งแต่สาวรุ่น สาวใหญ่จนถึงหนุ่มๆก็เยอะ ฮ่าๆ

ส่วนไอ้บิว คนนี้ผมยอม ส่วนใหญ่ผมมักจะเจอคนชมผมว่าผมเป็นผู้ชายหน้าสวย แต่มาเจอไอ้บิวไปผมนี่ยอมเรื่องหน้าตาเลยครับ ถ้าจับเอาวิกผมยาวมาใส่ให้มัน มันก็ผู้หญิงดีๆนี่เอง มันเป็นลูกครึ่งไทยฝรั่งเศส ตาโตๆ หน้าหวานดี ไม่มีใครเคยชิม ไม่มีใครกล่าวไว้ แต่ผมนี่แหละกล่าวเองในใจ มันเป็นพิธีกรรายการอาหารตั้งแต่ตัวน้อยๆ เพราะพ่อมันเป็นเชฟชื่อดังจากฝรั่งเศส พ่อไอ้บิวมีรายการอาหารที่เรตติ้งสูงที่สุด มันเองก็มาออกรายกับพ่อตั้งแต่ประถมต้นจนถึงตอนนี้ก็เก่งจะเท่าพ่อมันแล้วครับ ผมชอบไปหามันที่บ้านเวลาว่างจากงาน เพราะได้กินของอร่อยๆรสชาติภัตตาคารแต่ราคาเพื่อนฝูง อีกนัยหนึ่งคือกินฟรีครับ แหะๆ

แล้วยังมี ไอ้จอม นี่ก็เน็ทไอดอล หน้าตาดี พ่อแม่มันเป็นดาราดังทั้งคู่ ทุกวันนี้พ่อแม่มันก็เป็นเหมือนตำนานของวงการไปแล้ว ยังออกสื่ออยู่ตลอด ส่วนตัวมันยังไม่ยอมเข้าวงการครับ มันชอบถ่ายรูป พูดน้อย เงียบขรึม แต่ในสายตาผม มันหล่อมากครับ

อีกสองคนเป็นผู้หญิง คนหนึ่งเป็นนางเอกใหม่ไฟแรงช่องน้อยสี มันชื่อ..ยีน มันเป็นคนสวยมนุษย์สัมพันธ์ดี พี่สาวมันก็เป็นดารา ผู้ใหญ่ก็ดันมันสุดตัว มันคงจะเป็นนางเอกลูกรักของเจ้าของช่องในอนาคตแน่ๆครับ อีกคนเป็นนักร้องหน้าใหม่ที่ชนะประกวดจากรายการเพลงที่กำลังโด่งดัง คนนี้ชื่อมีนครับ มันได้พรสวรรค์มาจากย่ามันมั๊งครับ ย่ามันเป็นนักร้องลูกกรุงที่เคยโด่งดังมากๆในอดีต มันหน้าตาน่ารักมากกว่าสวย และมันนี่แหละครับที่นักข่าวชอบจับเป็นคู่จิ้นของผม เพราะมันชอบชวนผมไปกินข้าวไปเดินซื้อของตั้งแต่มันยังไม่มาประกวดร้องเพลงแล้วครับ

เราทั้ง 7 คนสนิทกันมากครับ เวลาไปไหนทีก็เป็นที่สนใจ แต่เราก็ไม่เคยถือตัวว่าตัวเองดัง ยังคบยังพูดคุยกับเพื่อนคนอื่นๆได้สบายๆ ด้วยความที่เราสนิทและคบหากันมาตั้วแต่เด็กๆ นักข่าวจะตั้งฉายาให้กลุ่มของพวกเราว่า แก๊งค์ลูกไม้ คงมาจากลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นอย่างนั้นมั๊งครับ

“ไปกินข้าวกันไหม นานๆจะรวมตัวกันได้ครบกลุ่ม แกมีงานปะไอ้นาว” ไอ้บูมถาม

“มีตอนเย็นว่ะ แต่น่าจะแว๊บได้ เดี๋ยวคนรับใช้ส่วนตัวฉันจะมารับไปรอที่ห้องอัดเสียงบ้านไอ้เกลือ ฉันโทรบอกก่อนว่าจะไปกินข้าวกับพวกแก”

“พี่ธีมจะมารับแกเหรอนาว กรี๊ดด ชวนไปกินด้วยเลยสิ นะๆแก” ไอ้ยีนรีบเข้ามากรี๊ดข้างหูผมเลย

“ยีน แกเป็นนางเอกนะ เจียมตัวหน่อย อย่ามาออกนอกหน้าเกินตำแหน่ง พี่ธีมเป็นของฉันเว้ย คนอะไร โคตรดาร์คทอลแอนด์อยากซั่ม เอ้ย แฮนด์ซั่ม” ไอ้มีนที่เพิ่งเดินมาถึงรีบขัด ไม่รู้ไอ้สองสาวนี่มันหลงอะไรไอ้ธีมนักหนา พูดถึงทีไรเป็นต้องเพ้อ..เจ้อ

“แฮ่ดละแก พักก่อน ให้ไอ้นาวมันเลือกพี่สะใภ้เองดีกว่า” ไอ้บิวพูดไปยิ้มไป ผมอยากจะบอกมันว่า มันจะยิ้มพร่ำเพื่ออะไรนักหนาวะบิว น่ารักชะมัด อ๊ะ! อย่าคิดว่าผมคิดไม่ซื่อกับเพื่อน ให้น่ากินแค่ไหนก็ไม่กินครับ รู้ไส้รู้พุงจนกลัวจะเป็นอันตรายต่อท้องไส้

“มันไม่เลือกหรอก มันจะเก็บเอาไว้เอง” ไอ้เกลือสวนกลับทันทีเลยเจอฝ่ามือนุ่มๆของผมตบกะโหลกมันทันทีเหมือนกัน เป็นรางวัลแด่ความโสมมของปากมัน

“แกคิดจะกินพี่ตัวเองจริงๆหรอวะนาว” ไอ้บูมถาม ผมจะให้รางวัลมันเหมือนกับไอ้เกลือ แต่มันดันหลบได้ เอ็งเป็นนักบอลนะไม่ใช่นักมวย เซ็งครับ มันหลบได้ทุกที

“หรือไม่จริง เจอกันทีไรมันกัดพี่เขาทุกที กัดจนแหว่ง กัดกินจนหมดตัว” ไอ้บูมยังไม่จบ เดี๋ยวมันเจอแจ้งความข้อหาพรากความสุขจากใจผม

“สรุปนาวจะเลือกทางสายนี้แน่แล้วใช่ไหม น่าเสียดาย ผู้ชายหน้าตาดีๆไปสายนี้หมด ผู้หญิงอย่างเราลำบากแล้ววะยีน” ไอ้มีนถอนหายใจหันไปกอดกับยีน ช่วยกันปลอบ เมื่อกี้แกสองคนยังแย่งผู้ชายกันอยู่เลยนะ

“ยังไม่แน่ว่ะมีน เดี๋ยวขอเปิดโลกกว้างไปเจอผู้หญิงคนอื่นก่อน ชีวิตที่ผ่านมาต้องพัวพันกับแกแค่สองคนเลยสับสนในหนทาง” ผมตอบ ไอ้จอมที่นั่งเงียบขรึมมาตลอดถึงกับหลุดหัวเราะพรืด

อันที่จริงผมไม่ได้คิดปิดบังเพื่อนว่าผมมีรสนิยมยังไงผมไม่เคยคบกับใครทั้งนั้นไม่ว่าจะหญิงหรือชาย เลยยังบอกไม่ได้ว่าจริงๆแล้วตัวเองเป็นเกย์ชัวร์รึเปล่า ก่อนหน้านี้มันก็มีทั้งผู้ชายและผู้หญิงที่เข้ามาจีบ แต่มันยังไม่โดนสักคน ที่มองๆว่าน่ารักดีหรือชอบก็มี แต่ก็ยังไม่ได้ชอบขนาดจะคบหาจริงจัง ไม่เคยมีใครสักคนที่จะทำให้รู้สึกรัก

..จนกระทั่ง..

ผมได้เจอกับใครบางคน เขาเป็นนักร้องที่มีอายุมากกว่าผมตั้งเกือบยี่สิบปี ช่วงที่เขากำลังดังถึงขีดสุดผมนี่แฟนคลับตัวเอ้เลยครับ ตามไปทุกคอนเสิร์ตถ้ามีเวลา ไอ้พวกนี้มันก็เคยบอกว่า ถ้าผมชอบพี่เขามากจากผลงาน แปลว่าผมก็ปกติ แต่ถ้าเริ่มชอบที่จะแทะโลมร่างกายพี่เขาเมื่อไหร่ พวกมันขอไว้อาลัยให้กับเอกราชของผมล่วงหน้าเลยแล้วกัน ฮ่าๆๆ เคยให้สัมภาษย์เหมือนกันว่าชื่นชมพี่เขา แต่ส่วนใหญ่จะคิดแค่ว่า ผมเห็นเขาเป็นไอดอลแค่นั้นเอง คงเพราะผมไม่ได้ตุ้งติ้งหรือมีท่าทางแอ๊บแมน ก็เป็นผมที่ดูเหมือนผู้ชายทั่วไป เพื่อนสนิทเองก็ยังสับสนว่าผมจะเลือกทางสายไหนดี ต่างจากไอ้บิวที่ทุกคนลงความเห็นว่า มันควรสละความเป็นชายเอาไว้ฉี่อย่างเดียว มันมีเมียไม่ได้แน่ๆ เพราะมันคงทำไม่เป็น และถึงทำเป็นก็คงไม่มีผู้หญิงคนไหนให้มันทำ คนบ้าอะไรสวยน่ารักเกินเพศจริงๆ ฮ่าๆๆ

“ปากแกงี้ขอให้โดนทะลวงประตูในเร็ววันนะ เพี้ยง” ไอ้ยีนพนมมือบอกกล่าวพร้อมกับจับกระหม่อมผมมาเป่าอวยพร

“แกเป็นคู่จิ้นของฉันนะนาว อย่ามาทำให้ฉันอกหักเพราะรักเกย์นะเว้ย” ไอ้มีนจีบปากจีบคอพูดบ้าง

“สรุปว่าจะไปกินที่ไหน” ไอ้บูมถามขึ้นมาเมื่อเห็นว่าบทสนทนาของพวกเราเริ่มออกทะเลกันแล้ว    

“แกคิดเลย เดี๋ยวฉันโทรหาคนรับใช้ส่วนตัวก่อน” ผมบอกมัน ไอ้เกลือส่ายหน้าใส่ผม ใช่ซี๊.. ไอ้ธีมมันลูกค้าชั้นดีของธุรกิจพ่อมันนี่ ชอบเข้าข้างกันนัก แล้วผมก็ต่อสายหาไอ้โหด กว่ามันจะรับสายได้ให้ผมรอตั้งนาน แถมเสียงดนตรียังดังเข้ามาในโทรศัพท์จนผมต้องยืมกุญแจรถของไอ้เกลือเพื่อเดินเข้าไปคุยในรถ ให้แหกปากคุยกลางลานผมก็อายคนอื่นเหมือนกันนะ

“เดี๋ยวจะไปกินข้าวกับเพื่อนนะ ไปกันครบกลุ่มแหละ รู้แล้วๆ ไม่นานหรอก เสร็จแล้วจะกลับพร้อมไอ้เกลือ เดี๋ยวนาย...จิ๊..เออๆ...เดี๋ยวพี่ธีมค่อยไปส่งนาวที่งานนะคร้าบบบ แค่นี้นะ โทรมาบอก ไม่ได้โทรมาขอเว้ย” ผมรีบตัดสายไม่อยากฟังคำสั่งของมัน แค่เผลอเรียกมันว่านาย มันบอกไม่ให้ไปทันที เลยต้องยอมๆพูดเพราะๆกับมันไป ไม่ได้กลัวมันหรอก แต่รำคาญ เพราะถ้าเกิดมันฟ้องแม่ของมัน คุณเมต้องโทรมาคอยตามผมตลอด ว่าอยู่ไหนคะ ไปกับใครคะ จะกลับกี่โมงคะ บลาๆๆ ชีวิตผมคงจะวุ่นวายกว่านี้ ผมวางสายมันได้แป๊ปเดียวพี่ชัชก็โทรเข้ามา พี่ชัชบอกว่าลืมบอกรายละเอียดเวลาที่ต้องไปงาน ผมบอกว่าไอ้ธีมมันบอกผมแล้ว พี่ชัชเลยงงว่าทำไมพี่ชายผมถึงรู้เพราะพี่ชัชยังไม่ได้แฟกซ์ตารางเวลาของผมทั้งหมดไปให้คุณเมเลย ผมไม่แปลกใจหรอก คนอย่างคุณเม อยากรู้อะไรต้องได้รู้ ธีมมันคงรู้จากแม่มันมาอีกทีแน่ๆ

ไอ้เกลือเดินมาเคาะกระจกให้ผมลงมานั่งอีกฝั่ง ส่วนมันมานั่งที่คนขับแทน มีไอ้บูมกับบิวมานั่งข้างหลัง ไอ้จอม ยีนและมีนไปอีกคัน ไอ้บูมบอกว่าอยากกินส้มตำ เราเลยไปร้านเจ้าประจำกัน ชื่อร้านเหมาะกับเรามาก

...ร้านนี้ไม่มีส้มตำ...     

เป็นไงละ แค่ชื่อร้านก็ว่าเด็ดแล้ว รสชาตินี่แซ่บลืมหล่อกันเลยครับ เคยถามป้าเจ้าของร้านว่าทำไมตั้งชื่อนี้ ป้าแกบอกว่า ไปดูดวงมา ดวงป้าห้ามโกหก ไม่งั้นชีวิตจะตกต่ำ แกเลยต้องซื่อสัตย์ ในเมนูป้าแกก็จะเขียนว่ามะละกอตำ ไม่มีคำว่าส้มตำแม้แต่ตัวเดียว เออ แกก็ไม่ได้โกหกจริงๆเพราะที่ร้านแกไม่มีส้มสักใบ

ป้าชูใจเจ้าของร้านจัดมุมที่นั่งให้พวกผมเป็นพิเศษ อยู่ด้านในสุด มีฉากที่ทำจากหวายสานมากั้นอีกที เพราะถ้านั่งตามปกติพวกผมจะไม่ได้กินส้มตำแบบสบายๆได้เลย ไหนจะโดนแอบถ่ายรูป โดนมาขอถ่ายที่โต๊ะเลยก็มี หนักเข้าก็มาชวนคุยจนแทบไม่ได้กิน จริงๆไม่ต้องแอบถ่ายก็ได้ เพราะไอ้พวกเพื่อนผมมันก็ถ่ายลงอินสตาแกรมบ้าง เฟสบุ๊คบ้าง แฟนๆก็ได้เห็นกันอยู่แล้ว แต่ที่จะไม่ได้เห็นคือรูปที่ไม่ผ่านสถาบันเสริมความงามสามร้อยหกสิบองศาเสียก่อน

“เออ นาว แกรู้รึยังวะ ว่าพี่ปอนเขาจะทำโปรเจคโฟโต้บุ๊คของพวกเรา เห็นว่าตอนนี้กำลังเข้าไปเจรจากับผู้ใหญ่ของแต่ละคนอยู่” ยีนเอ่ยถามผม พี่ปอนเป็นเจ้าของสำนักพิมพ์ที่มีหนังสือหัวใหญ่ๆทั้งในและนอกที่มียอดขายมากที่สุดมาหลายปีติดๆกัน ซึ่งพวกผมไม่ได้อยู่ในสังกัดเดียวกัน พี่ปอนเลยต้องทำเรื่องของทางผู้ใหญ่ของแต่ละคน ผมพอจะรู้จากพี่ชัชอยู่บ้าง แต่ยังไม่รู้รายละเอียดมากนัก สำหรับผมไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ยิ่งได้ทำงานกับเพื่อนแบบนี้ผมชอบ

“พอจะรู้ ก็ดี ได้ทำงานกับเพื่อน เดี๋ยวจะไปอ้อนพี่ปอนขอไปถ่ายไกลๆเลย” ผมคิดแบบนั้นจริงๆไปให้ไกลบ้านได้ยิ่งดี

“แต่ฉันรู้มาว่าเขารอใครอีกคนไม่รู้ รวมทั้งหมดแปดคน” มีนบอก ญาติมันทำงานในวงการบันเทิงหลายคนครับ มีนผู้รอบรู้หรือมีนขาเผือกครับ

“ฉันไม่รู้จะได้ไปรึเปล่า เดี๋ยวต้องเก็บตัวแล้ว” ไอ้บูมบอก มันต้องเตรียมเก็บตัวไปแข่งซีเกมส์ครับ

“พี่ปอนเขาคงดูคิวไว้หมดแล้วละ ว่าแต่คราวนี้คุณจอมจะยอมโดดเข้ามาในวงการมายารึยังคะ” ยีนหันไปถาม ผมรู้ว่ายีนแอบรักไอ้จอมมานานแล้ว แต่ที่ไม่รู้คือไอ้จอมคิดยังไง มันเป็นคนไม่ค่อยแสดงอะไรออกมา แสดงออกแต่ความหล่อครับ ไอ้เกลือประชาสัมพันธ์ของกลุ่มได้เคยกล่าวเอาไว้ว่า...อย่าให้ไอ้จอมมันแสดงอะไรออกมาน่ะดีแล้ว เพราะเห็นเงียบๆแต่พลังทำลายร้างสูงมากกว่าหน้าตามันครับ ไอ้จอมเป็นคนโลกส่วนตัวสูง มันถึงไม่อยากเข้าวงการ เพราะมันไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับมัน อันนี้เข้าใจมันครับ ผมก็เป็นเหมือนกัน แต่ต่างกันตรงที่ผมเลือกไม่ได้ ผมยังต้องทำงาน เพราะผมยังขาดเงินอีกจำนวนหนึ่งเพื่อไถ่บ้านคืน

“คงไม่”ไอ้จอมมันตอบสั้นๆแบบไม่คิด

“ทำไมวะ ไปไหนไปกันไง เราสัญญากันไว้แล้ว” ไอ้บิวขมวดคิ้วถาม ไอ้นี่มันขี้เหงา ขาดเพื่อนคนไหนไปมันจะคอยโทรตามจิกจนครบให้ได้

“เอาน่า ไว้ถึงเวลาไอ้จอมมันตกลงเองแหละ” ไอ้บูมบอกก่อนจะชวนเปลี่ยนเรื่องคุย แต่แล้วทุกคนในกลุ่มต้องหันมามองผมเป็นตาเดียวเมื่อผมเผลอวางช้อนในจานแรงไปหน่อย จะเรียกว่าวางก็ไม่ถูก เรียกว่าหลุดมือเลยจะดีกว่าครับ แล้วไอ้ทุกสายตาที่มองผมอยู่เมื่อกี้ก็หันไปมองตามสายตาของผมที่พุ่งตรงไปข้างหน้าแบบไม่กระพริบตาแม้แต่น้อย

“พี่นภนี่หว่า เอาละเว้ย ไอ้นาวเจอชายในฝันถึงกับมือไม้อ่อนเลยว่ะ” ไอ้เกลือแซวขึ้นมาทันทีที่เห็นว่าสายตาผมไปหยุดที่ไหน

“แม่ม อายุจะสี่สิบแล้วยังหล่อโคตรๆ” ไอ้มีนถึงกับเพ้อ แกไม่มีสิทธิ์เพ้อนะเว้ยไอ้มีน ตูฉี่ใส่แสดงความเป็นเจ้าของพี่นภเอาไว้แล้ว

“ของข้าต่างหาก” ผมเพ้อออกไป ทุกคนหันมาเบ้ปากใส่ผม แต่สติผมแทบแตกเมื่อจู่ๆไอ้เกลือตะโกนเรียกชื่อพี่เขาพร้อมกับผายมือเชิญให้มาที่โต๊ะ มันจะเรียกมาทำไม๊ ผมยังไม่พร้อม มะละกอตำใส่ปลาร้าเพิ่งละลายจากปากลงคอเหลือแต่กลิ่นเป็นที่ระลึกในปากอยู่เลย

“สวัสดีครับ” พี่นภพยักหน้าให้พวกเราทุกคนในกลุ่ม พวกเราก็ลุกขึ้นยืนพร้อมกับยกมือไหว้พี่เขาโดยพร้อมเพียง

“มาทานส้มตำ เอ้ย มะละกอตำเหมือนกันเหรอครับพี่” ไอ้เกลือถาม ทำไมดูมันสนิทสนมกับพี่นภวะ ไม่เคยเห็นบอกผมเลย

“ครับ เดี๋ยวคืนนี้พี่ต้องไปเล่นดนตรีที่เชียงใหม่ กลัวที่นั่นมีร้านไม่ถูกใจ เลยมากินแก้อยากก่อนไป พี่เกื้อสบายดีใช่ไหม” พี่นภถามไอ้เกลือ พี่เกื้อคือชื่อพ่อมันครับ

“สบายดีมากครับ ยังเตะปี๊ปดังครับ” ไอ้เกลือตอบ ที่แท้ก็รู้จักพ่อมัน แล้วทำไมมันถึงไม่ยอมบอกผมว่าตัวมันก็รู้จักพี่เขาเป็นการส่วนตัว ไอ้เพื่อนทรพี เดี๋ยวเอ็งมีคำตอบต้องตอบข้าหลายคำถามเลยครับไอ้เกลือ ตอบให้ดีด้วย ไม่ดีเอ็งอดส่องน้องแยมแน่ๆ ผมส่งสายตามาดร้ายไปให้มัน มันแกล้งทำหน้าสลดก่อนจะเล่นงานผมในทันที

“นี่นาว เพื่อนสนิทผม พี่คงรู้จัก แต่อยากแนะนำครับ ยังโสดซิงๆ”ไอ้เกลือมันแนะนำทุกคน จนมาถึงผมเป็นคนสุดท้าย

...ผ่างงงงงงงงงงงงงงงงง....

ผมไม่รู้ว่าเสียงรอบตัวผมในตอนนี้เป็นยังไง ผมได้ยินแต่เสียงฆ้องใบใหญ่ๆตีดังอยู่ในหัว หน้าผมในตอนนี้เหมือนใครเอาหิ่งห้อยหมื่นตัวมาเปิดไฟท้ายใส่ แหม ผมก็อยากเปรียบอะไรที่ดูน่ารักๆบ้างนี่ครับ

“โสดแบบนี้ก็จีบได้สิครับ”

........โคร๊มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม...........

เปล่าครับไม่มีอุบัติเหตุบนท้องถนน แต่มันเป็นอุบัติเหตุในหัวใจผมนี่แหละครับ สายตาพี่เขาชนหัวใจผมอย่างจัง หลบไม่ทันจริงจริ๊งงง ฮริ้วว ก็แหม พี่นภเล่นตอบกลับแบบนี้ท่ามกลางฝูงไฮยีน่าที่จ้องจะแซวผมแบบนั้น มาจับผมปล้ำกลางลานเซนเวิร์ลเลยดีกว่าครับ

“กรี๊ดดด ไอ้นาว เลือดกำดาวแกไหล” เสียงกรี๊ดไอ้มีนดังสะกิดต่อมรับรู้โลกภายนอกของผม ผมยืนงงทำอะไรไม่ถูก รู้แต่ว่าพี่นภยืนผ้าเช็ดหน้ามาให้ สีหน้าสุขุมนุ่มลึกที่อยู่ใกล้แค่มือเอื้อม รอยยิ้มอบอุ่นที่ผมเคยเห็นไกลๆแต่ตอนนี้มันใกล้แค่นิดเดียว

“ขะ ขอบคุณครับ” ผมรู้สึกขายหน้ามาก รีบเอาผ้าเช็ดหน้ามาอุดจมูกเอาไว้ ไอ้นาว ทำไมวันนี้ต้องเป็นวันแดงเดือดของแกด้วยวะ จบสิ้นแล้วภาพพจน์ดาราดังที่สั่งสมมา

“ไม่เป็นไรครับ ทานให้อร่อยนะ แล้วเจอกันใหม่ครับ” พี่นภบอกกับทุกคนเมื่อเพื่อนของพี่นภเรียกว่าได้โต๊ะที่นั่งแล้ว แต่คำว่าเจอกันใหม่ผมว่าพี่นภตั้งใจจ้องหน้าผมเต็มๆเลย พี่เขาอ่อยฉันปะวะพวกเมิ๊งงง

“สติสตัง สมงสมองไปหมดแล้วแก” ไอ้บูมยกมือขึ้นมาโบกๆตรงหน้าของผมที่ยังยืนมองตามพี่เขาไป ผมทิ้งตัวลงนั่ง ยกมือขึ้นจับหน้าอกตำแหน่งของหัวใจ

“ฉันว่า ฉันรู้แล้วว่าจะเดินทางไหนว่ะพวกแก” ผมพูดสายตายังจับจ้องไปที่พี่นภ
ผมไม่เคยรู้เลยว่าเมื่อเราได้เจอคนที่เราชอบมากๆจะส่งผลให้ร่างกายเราแปรปรวนได้เพียงนี้ ถึงพี่นภอาจจะพูดเล่นๆ แต่มันก็ทำให้ผมดีใจ เห็นทีวันนี้ผมจะขอเป็นเจ้ามื้อให้ไอ้พวกแมวน้อยคิตตี้พวกนี้สักหน่อยแล้วกัน (เลื่อนขั้นจากไฮยีน่าเป็นคิตตี้นี่นะ เสียงในสมองขวาได้กล่าวไว้) (เอ้า ก็คนมีความสุข อะไรก็มุ้งมิ้งไปหมดนี่เนอะ เสียงในสมองซ้ายได้กล่าวเอาไว้เช่นกัน)


โปรดติดตามตอนต่อไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-03-2017 20:50:43 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ fanglest

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
สนุกอ่าา
ยังไงเค้าก็เชียร์พี่ธีมนะน้องนาว
หัดลดทิฐิลงซะบ้างนะ
ธีมนี่แอบชอบนาวชัวร์
สนใจนาวอยู่ล่ะซี้
 :laugh3:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-12-2014 19:32:52 โดย fanglest »

ออฟไลน์ noozzz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
สนุกอ่ะ อ่านตอนเกริ่นเรื่อง ก็นึกว่าจะน่าสงสาร ที่ไหนได้ นางมโนเองล้วน 555

ออฟไลน์ SecondaryTrauma

  • Today is a gift, that is why call ... "The Present"
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0

ออฟไลน์ RedQueen

  • Memois Of A Calamity Queen
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
น่าสนใจ (นางร้ายนางนึ่งได้กล่าวไว้) 555+ :laugh:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
เป็นนางซินที่ขี้มโนถึงความดราม่าในชีวิตตัวเองชัดๆเลยอ่ะ
เชียร์ธีมๆๆๆๆๆๆๆ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
บทที่ 2


หลังจากท้องอิ่มและเฮฮาปาจิงโกะกันจนได้ที่ ก็ได้เวลาแยกย้ายกันไปทำงานกันแล้วครับ ผมกำลังไปที่ห้องอัดของพ่อไอ้เกลือ ระหว่างทางผมนั่งจ้องหน้ามันตลอด แรกๆมันก็ทำไม่รู้ไม่ชี้สุดท้ายคงทนไม่ไหว

“เออๆ ฉันยอมรับผิดที่ไม่ยอมบอกแกเรื่องที่รู้จักกับพี่นภ แกเลิกจ้องหน้าฉันได้แล้ว ฉันรู้สึกสยอง”

“แล้วทำไมแกไม่บอกวะ” ผมถามตรงๆ มันก็รู้ว่าผมชื่นชอบพี่เขาขนาดไหน เป็นเพื่อนผมมาตั้งนานกลับทำไม่รู้ไม่ชี้ เอ๊ะ หรือว่ามันจะแอบชอบพี่นภเหมือนกัน จะกันท่าฉันละซี๊

“ก็ฉันไม่อยากให้แกเป็นเกย์” มันอึกอักสักพักก่อนจะตอบ ซึ่งคำตอบทำให้ผมอึ้งไปเหมือนกัน

“แกรังเกียจเหรอวะ” ผมถามเสียงจ๋อยๆ ก็ไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นเหมือนกัน แต่ทำไงได้ คนที่เราชอบเสือกเป็นเพศเดียวกันนี่นา บางทีผมอาจจะโหยหาความรักจากเพศเดียวกันเพราะผมรู้สึกขาดความรักจากพ่อ แต่ไม่ว่าจะอะไร ผมก็เป็นแบบนี้ไปแล้ว ผมรู้ว่าไอ้บิวมันก็มีรสนิยมเหมือนกันกับผม แต่ทำไมไอ้เกลือมันไม่เห็นจะอะไรเลย

“หยุดคิดแบบนั้นเลยแกแกเป็นเพื่อนฉัน ต่อให้แกเป็นเชี้ยอะไรหนักกว่านี้ฉันก็รับได้ แต่แกเป็นคนมีชื่อเสียง ก็ไม่อยากให้แกมีข่าวไม่ดี”

“แค่แกบอกฉันว่าแกรู้จักกับพี่นภแค่นั้นเองแกคิดเยอะไปเปล่าวะเกลือ”

“ก็ถ้าแกรู้ว่าฉันรู้จัก แกก็จะต้องให้ฉันช่วย ดูแกวันนี้ดิ๊ไอ้นาว แค่พี่เขาเดินมาใกล้ๆแกถึงกับเลือดพุ่ง เจออีกทีแกไม่ปล้ำเขาเลยเหรอวะ แล้วถ้าแกออกอาการมากๆ นักข่าวต้องรู้จนได้ ไหนแกว่าแกยังก็บเงินไม่พอไง ฉันก็ไม่อยากให้แกมีข่าวไม่ดี เห็นยัง ฉันเพื่อนแท้แก หน้าหล่อ ใจก็หล่อ”

“..................” ผมก็เถียงไม่ออก ก็จริงของมัน ถ้าผมรู้ว่ามันรู้ ผมคงอยากเข้าใกล้พี่เขามากกว่านี้ โดยให้เกลือมันช่วย แต่ไอ้ประโยคท้ายของมันทำเอามะละกอตำที่กินเข้าไปพาลจะไหลออกทางที่ราบสูง

“อีกอย่าง พี่เขาก็ไม่รู้ว่าจะชอบผู้ชายรึเปล่า ถึงเขาจะไม่มีข่าวกับใครก็ไม่ได้แปลว่าเขาไม่มีใครนะโว้ย เขาอาจจะซุกเมียไว้ที่บ้านก็ได้ อาจจะมีลูกด้วยเหอะ จะสี่สิบแล้วนะแก”

“เฮ้อ ก็จริงของแก” ผมถอนหายใจ ที่เพื่อนมันพูดมาก็ถูก ผมก็แค่อยากมีความสุขบ้าง แต่มันคงยากซะแล้ว

“ถ้าเขาใจตรงกับแก เขาจะเข้ามาหาแกเองแหละนาว”

“ฉันควรใส่รองเท้าแก้วไปงานวันนี้ไหมวะ เผื่อจะทำหลุดแล้วมีเจ้าชายมาตามหา” ผมถามขำๆเพราะรู้สึกว่าไอ้เกลือมันจะซีเรียสเรื่องชีวิตรักของผมไปแล้ว

“บางทีเจ้าชายที่ตามหาแกอยู่อาจจะไม่ใช่พี่นภก็ได้”

“พอเลย ถึงฉันจะชอบพี่นภก็ไม่ได้แปลว่าฉันจะชอบผู้ชายทุกคนนะแกฉันอาจจะไม่ได้บอร์นทูบีเกย์ แต่บอร์นทูบีพี่นภ” มันทำท่าอ้วกใส่ผมทันที

“แล้วฉันจะคอยดูแก วันไหนปั๋วแกไม่ได้ชื่อพี่นภฉันจะล้อแกยันเหลนบวชเลย” ไอ้เกลือท้าทายผมเสร็จมันก็ขับมาถึงห้องอัดเสียงพอดี

ผมกับไอ้เกลือเดินเข้ามาด้านใน ไอ้เกลือมันพาผมเข้ามานั่งในห้องที่เป็นส่วนควบคุมเครื่องเสียงแล้วมันก็ขอตัวไปคุยกับพ่อมันก่อน ส่วนวงไอ้ธีมอยู่ในห้องตรงกันข้ามกับห้องควบคุม มีเพียงกระจกกั้นระหว่างห้องแค่นั้น พวกมันกำลังเล่นดนตรีกันอยู่ วงมันมีกันห้าคน มันเล่นกีต้าร์ ผมไม่รู้ว่ามันเห็นผมไหม เพราะห้องที่ผมอยู่มองเห็นมันชัดเจนดีเพราะว่าเปิดไฟสว่าง แต่ห้องที่ผมนั่งอยู่นี้มันมืดมีแค่ไฟสีเหลืองสลัวๆ ผมเห็นว่าผมเห็นมันจ้องมาก่อนจะก้มหน้าลงเล่นเพลงของมันต่อ

“โอเค ดีมาก เดี๋ยวพี่ขอเช็คซาวนด์อีกที ตอนนี้พักสักแป๊ปก่อนแล้วกัน” พี่ที่นั่งอยู่ตรงแป้นคอนโทรลเครื่องเสียข้างหน้าผมพูดใส่ไมค์บอกพวกมันเมื่อเล่นเพลงเมื่อสักครู่จบ พอพี่เขาหันมาทางผม ผมยกมือไหว้พี่เขา เขาพยักหน้ารับ แล้วพี่เขาก็เดินออกไปกันหมดเลย แต่ผมไม่รู้จะไปไหนเลยนั่งรอในห้องนี้ตามเดิม หยิบหนังสือเพลงมาอ่านเล่นๆระหว่างรอ มีเสียงกีต้าร์ลอยมาทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นมองแต่ก็ไม่เห็นใครในห้องนั่น ผมเลยลุกขึ้นแล้วเดินไปยืนชิดกระจกที่กั้นระหว่างห้องคอนโทรลนี้กับห้องเล่นดนตรี แล้วผมก็ได้เห็นต้นตอของเสียง ‘ไอ้ธีมครับ’ มันนั่งเล่นกีต้าร์อยู่ที่พื้นคนเดียวในห้องอัด


จะเป็นเพียงแววตาของเธอทั้งคู่ฉายมาสะกดรึเปล่า
อาจเป็นดาวดวงใด ใช้เธอมาหลอกเล่นกล เป็นไปไม่ได้
ออกจะงง คงเป็นเพราะเธอทำสับสนโอ๊ย เดี๋ยวอยากรัก เดี๋ยวอยากลืม
....ทุกสิ่งเปลี่ยนไปเพราะเธอ....
เธอทำให้ฉันรักเธอก่อน ไม่อาจถอนหัวใจมันคอยแอบๆ มองแบบซึ้งๆ
เธอทำให้ฉันหลงใจอ่อน นอนกอดหมอนทุกคืนจะทนได้นานสักเท่าไร หาก..คิดถึง.. โอ๊ย โอ๊ย
ผมยอมรับว่าเสียงของมันเพราะมากเลยครับ ไม่เคยเห็นมันร้องเพลงแนวนี้เลย ปกติก็อินดี้ๆหน่อย ดนตรีแบบฟังยากนิดหนึ่ง บางทีก็แนวร็อคปู้ยี้ปู้ยำรูหูครับ ฮ่าๆ สงสัยมันกำลังจะมีความรักถึงได้ดูเพ้อละเมอครวญผิดกับหนังหน้ามันชะมัด ใครน้อคือผู้โชคร้ายคนนั้น จริงๆถ้ามันทำเพลงแนวที่มันกำลังร้อง เพลงรักฟังง่ายๆ โกนหนวดหน่อย แต่งตัวให้ดูเท่ห์ๆ มันอาจจะดังไปแล้วก็ได้ แล้วถ้ามันดัง แม่ของมันก็คงดีใจที่ลูกมีชื่อเสียง ดีไม่ดีคุณเมอาจจะไม่มายุ่งกับผมอีกเลยก็เป็นได้ ดีละ ผมยุให้มันเปลี่ยนแนวดีกว่า

..เฮ้ย!!..

ผมสะดุ้งเล็กๆเมื่อไอ้ธีมมันเงยหน้าขึ้นมามองตรงที่ผมยืนอยู่ จะหลบก็ไม่ทัน ผมเลยรีบยกมือขึ้นมาอุดหูเหมือนว่าฉันทนฟังไม่ได้แล้วนะเว้ย หยุดเล่นเลยแก แต่มันก็จ้องแบบเดิม ไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับ เหมือนคนเหม่อลอย มือก็ยังเล่นกีต้าร์ ปากก็ยังร้องเพลงอยู่ ผมเลยทำมือชี้ๆไปที่มัน แล้วเอามืออุดปากตัวเองเหมือนจะบอกให้มันหยุดร้อง ไม่ได้ครับ เดี๋ยวเสียฟอร์มถ้ามันรู้ว่ามายืนฟังเพลงมันอยู่ แต่มันก็ไม่เห็นสนใจผมเลย เหมือนกับว่าไม่เห็นผม เอ๊ะ หรือว่ามันจะมองไม่เห็นจริงๆวะ ผมเคยเข้าไปอัดเสียงตอนร้องเพลงประกอบละครครั้งหนึ่งเหมือนกัน ในห้องนั้นจะเป็นกระจกเงา คนในห้องจะเห็นแต่ตัวเอง น่าจะเป็นอย่างนั้น ไม่งั้นคนอย่างมันถ้าเห็นผมยืนดูคงหยุดเล่นไปแล้วแหละครับ


อยากจะกินกลืนเธอทั้งตัวไม่อยากเหลือไว้ให้ใครได้กลิ่น
อยากได้ยินเพียงเสียงของเธอเพรียกบอกรักเพ้อถึงฉันผู้เดียว
กดอารมณ์ทนไปไม่ไหว ใจมันหวิวหวามไม่เจอคงขาดใจ โอ๊ย โอ๊ย
………….โอ่ย โอ๊ย คิดถึงจังเธอ…โอ๊ย โอ๊ย คิดถึงเธอจัง......


“ไงแก ถูกสะกดเลยเหรอ”

“ห่าเกลือ ฉันตกใจหมด” ผมตกใจจริงๆครับ มัวแต่ฟังเพลงที่ไอ้ธีมมันร้องบวกกับคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย แถมห้องนี้ก็มืดๆอยู่ด้วย มันโผล่มาพูดใกล้ๆใครไม่ตกใจก็ไปออกรายการคนอวดผีเถอะครับ

“อึ้งละซี๊ พี่ชายแกร้องเพราะใช่ไหมละ”

“ก็พอฟังได้ ดีกว่าเสียงหมาหอนนิดนึงว่ะ”

“เหรออออ ฉันเพิ่งรู้ว่าแกฟังเสียงหมาหอนแล้วสีหน้าละมุนละไมได้อีก”

“หน้าฉันละมุนละไมตั้งแต่เกิดเหอะ พอละ ขี้เกียจต่อปากต่อคำกับแก ว่าแต่ไอ้กระจกข้างในมองมาเห็นเราเปล่าวะ”

“ไม่เห็น”

“ฉันก็ว่างั้น” ผมยักไหล่ก่อนจะเดินมานั่งที่เดิม

“แกจะไปเปลี่ยนชุดก่อนเปล่า” ไอ้เกลือถาม ผมมองดูนาฬิกา อีกตั้งชั่วโมงกว่าๆ

“ยังอะ ขี้เกียจ นั่งรอในนี้นะ เย็นดี เออ ไปไหว้พ่อแกก่อนดีกว่า”

“พ่อไปข้างนอกแล้ว แกรอในนี้แล้วกัน ฉันไปคุยกับศิษย์พี่นนท์ก่อน อยากให้เขาลองฟังเพลงที่ฉันแต่ง เผื่อจะได้เป็นนักแต่งเพลงเหมือนพ่อบ้าง” พี่นนท์คือเพื่อนไอ้ธีมครับ มือเบส ไอ้เกลือมันฝากตัวเป็นศิษย์น้องเขาเรียบร้อย สงสัยมันจะแขวนแคทวอล์คมาเอาดีทางนี้

“เย็นนี้แกว่างเปล่า ฉันอยากกินปิ้งย่างเกาหลี” ผมถามมัน

“ไม่ว่างวะ พ่อสั่งให้ไปกินข้าวด้วยกัน เอาไว้พรุ่งนี้แล้วกันนะแก”

“เออๆ แกไปเหอะ งั้นเดี๋ยวฉันรอที่นี่แหละ เดี๋ยวถึงเวลาคนรับใช้ฉันก็มาตามฉันเอง” ผมบอกมัน มันส่ายหน้าเบ้ปากให้ผมก่อนจะเดินออกไป


...นาว...
....นาว....
..ไอ้นาว!!....


ผมสะดุ้งสุดตัวเมื่อรู้สึกเจ็บแปลบที่หน้าผาก ยกมือขึ้นลูบหน้าผากโดยอัตโนมัติก่อนจะเลื่อนมาขยี้ตาตัวเอง เผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ สงสัยเพราะข้าวเหนียวออกฤทธิ์ แถมกลางคืนผมก็ไม่ค่อยจะนอนด้วย ชอบอ่านหนังสือบ้าง เล่นเน็ทบ้าง ก็มันเป็นช่วงเวลาที่ผมชอบที่สุดนี่ครับ พอผมเริ่มหายจากอาการสะลึมสะลือแล้วก็เห็นตัวต้นเหตุที่ทำให้หน้าผากผมเจ็บ หัวกบาลเหมือนรังนกนี่มีคนเดียวแหละครับ คนรับใช้ส่วนตัวของผมเอง 

“ไอ้พี่ธีม ดีดหน้าผากนาวทำไมนี่ เจ็บนะ” ผมโวยใส่มันทันที นี่แหละครับ ที่มันเคยขู่ผมเรื่องการปลุกแบบวีไอพีของมัน ดีดโพล๊ะเข้าที่หน้าผากรับโชคของผม ตำรวจเขารับแจ้งความเรื่องการดีดหน้าผากทำร้ายร่างกายไหมครับช่วยบอกหน่อย

“ก็นาวก้าวร้าว ไม่เรียกพี่ว่าพี่”

“ตอนไหนเหอะ”

“เมื่อกี้ไง”

“พี่ดีดก่อนนาวเรียกไหม ไอ้.. แม่มมมมเอ้ย” ผมจะด่ามัน มันทำท่าดีดลมขู่ผมเลยต้องหยุด นิ้วของมันได้ฉีดแกรนิตเสริมใยเหล็กรึเปล่านี่ โคตรเจ็บอะ

“ก็พี่รู้อยู่แล้วว่านาวต้องเรียกพี่ว่าไอ้ เลยดีดล่วงหน้าตอนหลับจะได้ไม่เจ็บมาก นี่เรียกว่าปราณีแล้วนะ ขอบใจสักคำยัง”

“เดี๋ยวจุดธูปดอกหนึ่งให้ทีสิ จะได้ไหว้ขอบคุณทีเดียว” จุดเชิญให้มันไปที่ชอบที่ชอบด้วยเลยทีเดียว

“ไปเปลี่ยนชุดครับนาว ได้เวลาแล้ว” บร๊ะเจ้าข้าวต้ม (ต้องข้าวต้มครับ บร๊ะเจ้าโจ้กเดี๋ยวโดนลิขสิทธิ์) มันแสดงละครเก่งกว่าผมอี๊กกก เพราะพวกพี่ๆที่คุมห้องอัดเดินกลับเข้ามา มันรีบเปลี่ยนท่าทีเชียว พูดเพราะจนน้ำในหูผมเกือบไม่เท่ากัน ด๊ายยย เล่นมาก็จัดให้

“พี่ธีม นาวหิวน้ำครับ” ผมบอก มันเหลือบตามองผม คึคึ เดี๋ยวจะใช้แกเดินสักสามรอบ

“ไอ้นนท์ ไปเอาน้ำให้นาวหน่อย” เฮ้ย มันใช้เพื่อนมันครับ พี่นนท์ทำท่าจะเดินออกไปเอาให้จริงๆ

“อ๊ะ พี่นนท์ ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวนาวเดินออกไปกินเลยดีกว่า” ผมเกรงใจพี่เขา จิ๊!! ไอ้ธีมมันยิ้มร้ายกาจอีกแล้ว มันรู้ทันผมได้ไง

“เร็วๆนะครับน้องนาว เดี๋ยวไม่ทันงาน” เสียงตะโกนของมันดังตามหลังมา ฝากไว้ก่อนถอะ นี่ผมรีบหลอกนะ ไม่งั้นไม่ยอมหร๊อก


งานที่ผมไปในวันนี้คืองานเปิดตัวนาฬิกาแบรนด์นอกที่ผมเป็นพรีเซนเตอร์ให้คู่กับดาราสาวอีกคน เธอกำลังมาแรงครับ เล่นภาพยนตร์เรื่องแรกก็ทำรายได้ถึงร้อยล้านแล้ว น่าจะได้มากกว่านี้เพราะภาพยนตร์ยังไม่ออกจากโรงเลยครับ หน้าตาก็น่ารักดี ท่าทางจะขี้อายเพราะเธอไม่ค่อยกล้าคุยกับผมเท่าไหร่ ได้แต่ส่งยิ้มมาให้ ผมมาถึงก่อนเวลา ตอนนี้กำลังทำผมและแต่งหน้าอยู่ครับ ส่วนคนรับใช้ส่วนตัวผมมันนั่งรออยู่ที่มุมห้องแต่งตัว ผมเห็นดาวแอบมองไอ้ธีมบ่อยๆ ดาวก็คือดาราสาวร้อยล้านนั่นแหละครับ ผมละอยากจะบอกเธอจริงๆว่าอย่าเอาทองไปลู่กระเบื้องเลยครับ ผมเห็นไอ้พี่ธีมมันนั่งจิ้มๆโทรศัพท์ ผมเลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วส่งไลน์หามัน


ManowTangduud : อย่าเผลอหลับนะ เดี๋ยวคนแถวนี้เขานึกว่าศพ

คึคึ ส่งไปแล้วครับ เสียงไลน์มันดังละ มันกดเปิดอ่านก่อนจะเหลือบตาขึ้นมามองผมแล้วส่งสติ๊กเก้อกลับมา แม่มมม มันไปซื้อจากไหนครับ เป็นรูปการ์ตูนคนผิวดำแต่งตัวแร๊พเปอร์ชูนิ้วกลางมาให้ คิดว่าผมจะยอมเหรอครับ ส่งข้อความกลับมั่งดิ มันเปิดอ่านเสร็จคราวนี้ไม่ส่งอะไรกลับมาครับ ไม่มองมาด้วย หรือผมจะเล่นแรงไปวะ ผมแค่ส่งไปว่า...

ManowTangduud : นายมีเยอะสินะเลยเที่ยวแจก มิน่าละ ถึงได้โดน จุด จุด จุด

“น้องนาว น้องดาวคะ ได้เวลาขึ้นเวทีแล้วค่ะ” ทีมงานมาตามผมกับดาวพอดี ผมเลยเลิกสนใจมัน แค่ล้อเล่นทำงอน ตูไม่ง้อหรอกเว้ยจะบอกให้ แบตโทรศัพท์ก็จะหมดพอดี ผมเลยเก็บแล้วไปเตรียมพร้อมที่ด้านหลังของเวที


งานบนเวทีจบลงด้วยดี ผมทำหน้าที่ได้สมบูรณ์แบบ เจ้าของงานได้กล่าวให้ผมฟังครับ เมื่อลงมาจากเวทีก็โดนนักข่าวรุมถามเรื่องข่าวที่แฟนๆจิ้นผมกับมีน ผมก็ตอบตามจริงครับว่าเป็นเพื่อนสนิทกัน แต่ดูแล้วไม่มีคนเชื่อเท่าไหร่ จากนั้นก็หันไปสัมภาษณ์ดาว ผมเลยขอปลีกตัวออกมาก่อน ผมเดินกลับเข้ามาในห้องแต่งตัว ตั้งใจจะบอกให้คนที่รอมันกลับไปก่อนเพราะผมอยากกินปิ้งย่างเกาหลีจะแย่แล้ว ที่สำคัญไม่อยากกลับไปกินข้าวที่บ้าน ต้องพูดกับมันดีๆมันจะได้ไม่มีปัญหา แต่เชื่อผมไหม เดี๋ยวแม่เลี้ยงของผมต้องโทรมาตามให้กลับไปกินข้าวที่บ้านอย่างเคยๆ

“เสร็จแล้วใช่ไหม” มันถามผม

“อืม พี่ธีม นาวจะ..”ผมยังไม่ทันจะได้พูดจบประโยคเสียงโทรศัพท์ของมันก็ดังขึ้น

“ครับแม่ เสร็จแล้วครับ เรียบร้อยดีครับ น้องอยู่กับผมแล้ว คือเดี๋ยวผมจะพาน้องไปกินอาหารเกาหลีครับ ผมจองร้านไว้แล้วครับ ครับแม่ ไม่ดึกครับ ครับ” มันวางสายแล้วก็หันมามองหน้าผม

“เมื่อกี้จะพูดอะไร เดี๋ยวค่อยคุยในร้าน พี่หิว” มันบอกผมพร้อมปกับทำหน้ายุ่ง

“คือ..”

“หรือจะกลับไปกินข้าวบ้าน” มันถาม ผมเลยเลือกที่จะเงียบ เอาวะ ถึงจะลดความอร่อยลงเพราะต้องเห็นหน้ามันตอนกินก็ดีกว่าเห็นครอบครัวมันทุกคน

“ไม่มีอะไร ก็ไปดิ นาวจะเลือกร้านเองนะ”

“พี่เลือกแล้ว ร้านXX อย่าเรื่องมาก เร็ว หิว” มันบอกชื่อร้าน เป็นร้านที่ผมอยากกินนี่แหละครับ เกิดจะมาอยากเหมือนกันอีก แต่ก็ดี กินฟรีไม่ต้องจ่าย จะสั่งให้แกกระเป๋าเบาเลยคอยดู

“ก็เดินไปดิหรือต้องให้ควงแขนไป” ผมถาม มันถอนหายใจใส่ผมก่อนจะเดินลิ่วๆออกไปเลย ขำหน้ามัน มันคงจะฝังใจเรื่องพี่อ้นจริงๆ

ตอนนี้โต๊ะที่ผมนั่งแทบจะไม่มีที่ว่างเลยครับ ผมส่งของกินมาจนเต็มโต๊ะ แต่ไอ้ธีมมันไม่แสดงท่าทีอะไรเลย มันก็คีบไปปิ้ง ระหว่างที่กำลังปิ้ง น้องผู้หญิงคนหนึ่งใส่ชุดมัธยมปลายเดินเข้ามาแบบเอียงอายๆ ผมหันไปยิ้มให้ ชินแล้วครับ ส่วนไอ้โหดที่นั่งตรงข้ามกับผมมันกำลังจดจ่อทำสถิติปิ้งเนื้อให้กินเนสบุ๊คอยู่มั่งครับ ไม่สนใจโลกแม้แต่น้อย

“พี่คะ ขอถ่ายรูปหน่อยได้ไหมคะ” น้องคนหนึ่งเอยแบบกล้าๆกลัวๆ ผมพยักหน้าให้ เอาจริงๆก็ไม่ได้ชอบหรอกครับ กำลังจะเอาเนื้อใส่ปากอยู่แล้วเชียว แต่เรามายืนตรงจุดนี้ได้ก็เพราะการสนับสนุนจากคนเหล่านี้แหละครับ ได้อย่างก็ต้องเสียอย่าง แต่เดี๋ยวก่อน ในเมื่อผมไม่ได้กินแบบมีความสุข ไอ้คนรวมโต๊ะจะเสวยสุขคนเดียวได้ไง

“พี่ธีม ช่วยถ่ายนาวกับน้องเขาหน่อยสิ” ผมบอก มันมองหน้าผม ผมยักคิ้วให้ รู้สึกดีที่ได้ขัดขวางการกินของมัน

“น้องเขาบอกเหรอว่าอยากถ่ายกับนาว” มันถามเสียงดุๆ โถๆ สองสาวหน้าเสียเลย ไม่ได้หรอกครับ ยังไงมันต้องถ่ายให้ผม มาด้วยกันต้องหิวด้วยกัน

“อยากถ่ายกับพี่ไหมครับ” ผมถาม สองสาวมองหน้ามันแบบกลัวๆ ก่อนจะส่ายหน้า

“ไม่เป็นไรค่ะ ถ่ายพี่นาวคนเดียวพอ”

“ไม่เป็นไรไม่ต้องอาย พี่ชายพี่ฉีดยาแล้ว ไม่ต้องกลัว” ผมบอก น้องสองคนแอบยิ้ม พอเห็นสายตาไอ้โหดน้องเขาก็รีบหุบยิ้ม

“ไม่ได้กลัวพี่หล่อคนนี้หรอกค่ะ แต่หนูจะเอาไปฝากแม่ แม่หนูชอบพี่นาวค่ะ”

..เพล้งงง...

..หึหึหึหึหึหึ...

..แชะ!!...

เสียงแรกคือเศษหน้าผมที่แตกละเอียด เสียงต่อมาคือเสียงขำของไอ้โหดครับ เสียงสุดท้ายคือเสียงจากกล้องโทรศัพท์มือถือของสองสาวที่ทำภารกิจคืนความสุขแก่มารดาเสร็จก็หายตัวไปเลยครับ  ไอ้โหดยังนั่งขำไม่หยุด ผมหรี่ตามองมัน ความแค้นแน่นอก ต้องยกออก

“อันนี้นาวสั่ง ห้ามกิน” ผมโกยๆจานที่ผมสั่งมาไว้ฝั่งผม ซึ่งจริงๆผมก็สั่งแทบทั้งโต๊ะ เหลือแค่จานผักกับกิมจิที่ผมเอาตะเกียบเขี่ยๆไปใกล้ๆมัน

“กินหมด?” มันถาม

“หมด”

“ถ้าไม่หมด?”มันถามสีหน้าเคืองๆ

“ก็แปลว่าเหลือไง” ผมตอบ มันจ้องหน้าผม

“ถ้าเหลือเขาปรับ”

“ก็ปรับไปดิ”

“มีเงิน?” คราวนี้มันถามสีหน้ากวนๆ

“................” ผมอึ้งไปเลย ก็กระเป๋าผมอยู่ในรถมัน ตอนนี้มีแค่ตัวกับโทรศัพท์

“งั้นเดี๋ยวพี่ไปสั่งใหม่ก็ได้ นาวล้างจานเป็นไหม ลองเปลี่ยนอาชีพดูบ้างไหมละ” มันทำท่าจะลุก ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจะโทรหาไอ้พวกเพื่อนๆให้มาช่วยจ่าย เวรละ ดันแบตหมดซะอีก

“กินด้วยกันก็ได้ ล้อเล่นนิดเดียวเอง” ผมรีบบอก เลื่อนจานกลับไปทางมัน

“ก็แค่นี้” มันบอก ก่อนจะคีบเนื้อย่างไปปิ้งอีกครั้ง โธ่เว้ยยยยย โลกไม่ยุติธรรมกับคนหล่อๆอย่างผมเลย ทำไมผมไม่เคยจะชนะมันได้สักที ทีแรกก็รู้สึกผิดที่แซวมันแรงในไลน์ ตอนนี้ผมรู้สึกว่าผมน่าจะเล่นให้แรงกว่านี้คงจะดีไม่น้อย

..ฮึ่ยยยย แค้นนี้ต้องชำระ...


โปรดติดตามตอนต่อไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-03-2017 20:55:16 โดย Loverouter »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ RedQueen

  • Memois Of A Calamity Queen
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ชอบจังเลยอะ ใครหน้อ จิได้เป็นเจ้าชาย  :katai2-1:
แอร้ยยยยยย กล่าวถึงเราด้วย ดีใจจุง :z2:

ออฟไลน์ fanglest

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
สงสารเจ้าชายในอนาคตจริงๆ
มีนางซิน ขี้มโนแบบนี้เนี้ย
 :laugh:

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
บทที่ 3


ทันทีที่ผมกลับมาถึงบ้าน คุณแม่เลี้ยงของผมก็รีบเดินออกมารับเหมือนเช่นทุกวัน แปลกใจที่วันนี้เห็นธารนั่งดูทีวีอยู่ด้วย ปกติแทบจะไม่ได้เจอหน้ากันเลย แต่ยังไม่ทันที่ผมจะขอตัวกลับขึ้นห้อง คุณเมก็เรียกให้ผมไปนั่งคุยด้วยกันก่อน ผมแอบเซ็งในใจแต่ก็ต้องเดินตามไป ไอ้ธีมมันก็เดินตามผมมาอีกที

“อยู่บ้านได้เหรอเราวันนี้” ธีมมันถามน้องสาวมัน

“แม่เรียกให้มา บอกมีธุระจะคุยด้วย” ธารตอบก่อนจะหันมามองผม ผมไม่ได้ไหว้ ถึงพ่อจะเคยบอกให้ผมเรียกธารว่าพี่ ผมยอมเรียก แต่ผมไม่ยกมือไหว้เพราะเธอแก่กว่าผมแค่สามสี่เดือนเอง

“นั่งก่อนน้องนาว กินข้าวมาอิ่มไหมคะ อยากกินอะไรอีกไหม แม่สั่งให้สายหยุดทำบัวลอยเอาไว้ น้องนาวอยากทานไหมจ๊ะ” คุณเมถามผม บัวลอยฝีมือป้าสายหยุดอร่อยมากครับ แต่ท้องผมจะระเบิดอยู่แล้ว ก็ไอ้ธีมมันบังคับให้ผมกินที่สั่งมาทั้งหมด แล้วผมสั่งมาตั้งเยอะ แต่ไม่อยากเสียฟอร์มเลยต้องยัดเข้าไปจนแทบคลานกลับบ้านแล้วครับ

“ไม่ครับ นาวอิ่มแล้ว มีอะไรรึเปล่าครับ นาวเพลีย อยากนอนแล้ว” ผมตอบ คุณเมหน้าเสียนิดหน่อย สองพี่น้องนั่นก็เหลือบมองผม สีหน้าไม่ค่อยพอใจที่ผมดูไม่แคร์ความรู้สึกแม่ของมัน

“คือปลายเดือนแม่จะจัดงานการกุศล เป็นงานค่อนข้างใหญ่หน่อย แม่อยากให้น้องนาวมาร่วมงานด้วยได้ไหมจ๊ะ”

“ผมไม่รู้จะมีคิวรึเปล่า” ผมตอบทั้งๆที่รู้ว่าคุณเมคงจะเช็คตารางงานของผมทั้งหมดแล้วแน่ๆ

“แม่เช็คกับคุณชัชแล้ว น้องนาวไม่ติดงานอะไร แม่อยากให้น้องนาวกับเพื่อนๆมาเดินแบบให้แม่ด้วย แม่ติดต่อเพื่อนน้องนาวทุกคนหมดแล้ว ทุกคนก็ตอบตกลงมาแล้ว เหลือแต่น้องนาวนี่ล่ะค่ะลูก”

“ผมปฏิเสธได้เหรอครับ เช็คตารางขนาดนี้แล้ว” ผมถาม คุณเมอึ้งไป

“นาว!” ธารวางหนังสือแล้วเรียกชื่อผมด้วยเสียงแข็งๆ

“ผมล้อเล่น งานสำคัญของคุณเมผมจะไม่ไปช่วยได้ยังไงกันครับ ถ้ายังไงบอกรายละเอียดงานกับพี่ชัชได้เลยครับ งานการกุศลใหญ่ๆแบบนี้ผมยิ่งต้องไป จะได้ได้กุศลแรงๆจริงไหมครับ พี่ธาร พี่ธีม” ผมพูดด้วยเสียงที่ดูอ่อนโยนที่สุด แต่คนฟังทำไมทำหน้าขุ่นมัวกันแบบนั้นนะ

“แค่นี้ใช่ไหมแม่” ธารถามเสียงห้วนๆ

“พี่ธีมก็ต้องเล่นดนตรีให้แม่ด้วย ส่วนพี่ธารก็ต้องมาเดินแบบให้แม่เหมือนกัน” คุณเมบอกลูกสาวกับลูกชาย

“เอาวงพี่ธีมนี่นะแม่ แม่เชิญผิดงานรึเปล่าคะ” ธารถามเสียงดัง ผมได้ยินก็หลุดหัวเราะพรืดเลย ตาย ตาย ตาย คุณหญิงคุณนายจะได้ชูมือขวากันแล้วงานนี้ ดีไม่ดีกระโดดเหยงๆเหวี่ยงหัวกันทั้งงานคงสนุกน่าดู คึคึคึ ฮ่าๆๆ ก๊ากๆๆ ผมแอบกลั้นขำในใจ ไอ้ธีมมันส่งสายตาดุๆมาให้ผม อะไร!! โน้น น้องสาวนายนะที่ดูถูกนายฉันแค่ขำกับนินทาในใจแค่นั้นเองเหอะ

“ก็ตามนี้ งั้นนาวขอตัวไปนอนก่อนนะครับ พรุ่งนี้นาวต้องไปแคสท์งานแต่เช้า” ผมรีบบอก เมื่อคุณเมพยักหน้าอนุญาต ผมก็รีบเดินขึ้นห้องไป ก่อนจะส่งเสียงหัวเราะเบาๆเมื่อถึงหน้าห้องของผมเอง ไอ้ที่ว่าเบา ก็เบาจนได้ยินไปถึงข้างล่างโน้นแหละครับ ก๊ากกก

...เฮ้ย ผมได้ยินเสียงมันวิ่งขึ้นบันไดตามมาเลยรีบเปิดประตูเผ่นเข้าห้องแล้วล็อคทันที ก่อนจะไปหัวเราะเยาะมันต่อในห้องให้สาสมกับที่มันแกล้งผมเมื่อตอนกินข้าวละกัน...

ตึ๊งงงง! เสียงไลน์ผมดังขึ้น ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็เห็นว่าเป็นมันที่ส่งมา ข้อความของมันที่ต่อจากอันที่ผมส่งไปกัดมันในห้องแต่งตัวแหละครับ

ManowTangduud : นายมีเยอะสินะเลยเที่ยวแจก มิน่าละ ถึงได้ จุด จุด จุด (ข้อความเก่าของผมเอง)

Theme : พี่มีอันเดียวนี่แหละ จะเก็บเอาไว้ให้นาวแล้วกัน หึหึ

แว๊กกกก ผมรีบหันไปเช็คลูกบิดประตูอีกทีว่าล็อคแน่นหนารึยัง เมื่อเห็นว่าปลอดภัยดีแล้วก็พรูลมหายใจออก ถึงจะรู้ว่ามันแกล้งแต่ต้องปลอดภัยไว้ก่อน ก็หน้าตาผมมันอาจจะไปกระตุ้นต่อมเลิกเกลียดเกย์ของมันก็ได้ หน้าตาดีนี่ช่างเป็นภัยจริงๆ คึคึ แต่เอาละ แกจะมาไม้นี่ใช่ไหมไอ้พี่ธีม ด๊ายยยย แล้วจะดูว่าจะปากดีแค่ไหน แต่วันนี้พักยกก่อน ผมอยากอาบน้ำแล้ว หัวหูเนื้อตัวเหม็นกลิ่นเนื้อย่างไปหมดละ ก่อนจะอาบน้ำก็เอาโทรศัพท์ไปเสียบสายชาร์ต เปิดไลน์ดูอีกที กลุ่มแก๊งค์ลูกไม้ มีร้อยกว่าข้อความที่ผมยังไม่ได้อ่าน ก็แบตมันหมด แล้วผมเพิ่งจะชาร์ตในรถตอนขากลับได้แป๊ปเดียวเอง เดี๋ยวค่อยมาอ่านแล้วกัน ไม่รู้มันคุยอะไรกันนักหนา ปกติจะคุยกันดึกกว่านี้เพราะทุกคนต่างก็มีงานยุ่งๆ แต่ตอนนี้เหนียวตัวมากกว่าอยากรู้เลยวางโทรศัพท์บนเตียงแล้วเข้าไปแช่น้ำให้สบายใจก่อนแล้วกัน


อาบน้ำจนตัวหอมฟุ้งก็มานั่งเป่าผมจนแห้งแล้วถึงทิ้งตัวลงนอน ผมหยิบไลน์ขึ้นมาดู ไลน์กรุ๊ปตอนนี้มีถึงสองร้อยกว่า ผมเปิดอ่านไล่ๆไป ส่วนใหญ่จะเป็นสองสาวมีนกับยีนที่เมาท์ๆเรื่องทั่วไป ท่าทางมันคงจะว่าง มีไอ้เกลือกับไอ้บูมที่มาแซวจิกกัดสาวๆบ้าง ไอ้บิวกับไอ้จอมหาย แต่ก็ขึ้นว่าอ่านครบนะครับ ไอ้บิวช่วงเวลานี้มันคงทำกับข้าวกับพ่อมัน ชอบทำตอนดึกๆ ที่รู้เพราะเวลาไปดูอินสตาแกรมของมันจะเห็นอาหารน่ากินทั้งนั้นเลย แล้วตอนดึกๆแบบนี้โคตรทำร้ายกันเลยไอ้บิวตี้ ส่วนไอจอมก็ต้องไปดูในไอจี(อินสตาแกรม)เหมือนกัน มันชอบถ่ายรูปแล้วมาลงรัวๆตอนกลางคืนแบบนี้แหละครับ จริงๆในกรุ๊ปนี้ก็มี 7 คน แต่เรามีกันคนละสองไอดี จากมือถือเครื่องที่สองบ้าง จากไอแพดบ้างเลยกลายเป็นมี 14 ไอดีในกรุ๊ปนี้ ผมอ่านจนครบแต่ไม่ได้ทักอะไรไปเพราะมันมีไลน์จากไอ้จอมทักแยกมาด้วย ปกติมันไม่ค่อยทักมาหรอกครับ น่าแปลกใจ

จอมทัพ : แกเข้าไอจียัง

(ข้อความนี้ไอ้จอมมันส่งมาตั้งแต่ชั่วโมงที่แล้ว)

ManowTangduud: ยังว่ะ มีไรวะ

(รอพักเดียวมันก็มาอ่าน)

จอมทัพ: แกไปดูเอง 

(ผมออกจากไลน์แล้วไปเข้าไอจี ไปดูของมันก็ไม่มีอะไรนี่หว่า มีรูปตอนไปกินมะละกอตำกับรูปดอกไม้ข้างทางวิวต่างๆที่มันถ่ายเอาไว้)

ManowTangduud: ไม่เห็นมีอะไรเลย แกถ่ายอะไรวะ

(ผมกลับมาถามมันในไลน์)

จอมทัพ : ไม่ได้ให้ดูของฉัน ดูของไอดอลแก

ผมอ่านข้อความของมันจบรีบหยิบไอแพดมาเปิด จะได้เห็นรูปใหญ่ๆ กดไปที่ชื่อพี่นภ เขาลงรูปนี้เมื่อชั่วโมงที่แล้ว ไอแพดแทบร่วง คนอื่นมาดูคงไม่ได้คิดอะไร แต่ผมคิดครับ มะนาวครับ พี่เขาถ่ายรูปมะนาวฝานเรียงไว้ในจานสวยงาม พร้อมกับข้อความว่า

NopTheSound นักร้องอย่างผมต้องคู่กับมะนาวครับ ชุ่มคอชื่นใจ

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด กรี๊ดดดดดดดดดดดดด ผมวางไอแพดแล้วซอยเท้ารัวๆ แต่ไม่ได้กรี๊ดออกเสียงหรอกนะครับ เดี๋ยวจะดูสาวแตกเกินไป ฮ่าๆ บอกตรงๆว่าดีใจครับ จะหมายถึงผมรึเปล่าไม่รู้ แต่ผมก็ดีใจประหนึ่งได้ถ่ายรูปคู่กับพี่เขาครับ ฮ่าๆๆ ผมรีบแคปภาพในไอจีพี่นภแล้วเปิดไลน์กรุ๊ป กดส่งภาพ ก่อนจะส่งสติ๊กเก้อรูปหัวใจรัวๆ มีคนเปิดอ่านแล้วครับคนหนึ่งแต่ไม่ได้ตอบอะไร อะไรว้า ไม่มีใครมากรี๊ดกับผมเลย วัยรุ่นเซ็ง อุ้ยๆๆ คนอ่านสองคนแล้ว

จอมทัพ : ขี้อวดว่ะ

ManowTangduud: เอ๊า มีให้อวดปะวร๋า 

(มีคนมาอ่านเพิ่มเป็นสี่คนแล้วครับ)

นุ้งมีน : เขาหมายถึงแกปะเหอะ

PrincessYEAN : เออ ใช่ หวายๆ ขี้ตู่วะแก

ManowTangduud: ไม่รู้ ฉันสามารถมโนได้

(คราวนี้ขึ้นอ่าน 7คน ใครมันเล่นสองเครื่องเลยวะถ้าไม่นับตัวผมมันต้องหกดิ)

ManowTangduud: ใครมาอ่านแล้วไม่มายินดีกับฉันฉันแช่งให้งานหด

BoomBaLAKa : แม่ม ไปออกรายการคนอวดผัวเลยไป

( ก๊ากกก กลัวไม่ได้ไปบอลโลกเหรอแก รีบมาตอบเลย)

Supersalt : นี่ถ้าพี่เขาลงรูปคู่กับมันเลย มันคงแถลงข่าว

ManowTangduud : พวกแกขี้อิจฉาว่ะ ว่าแต่ใครเล่นสองเครื่องวะ

ชามมีไอเอนจี: ฉันเอง กำลังจะลงแอพใหม่ แต่มีหมาแม่มอยากให้มาแสดงความยินดี

ManowTangduud : ใครวะ

ชามมีไอเอนจี : เกลือสุดหล่อของน้องนาวไงครับ

(เป็นไอดีไอ้เกลือครับ มันเอาไอดีอีกอันมาตอบ เสือกเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนรูปซะงง)

BoomBaLAKa : ถุย ว่าแต่แกลงแอพหรือแอบส่องนมสาววะไอ้ซอลลลลตี้

ชามมีไอเอนจี: อยากมาส่องด้วยไหมละ

(ไอ้เกลือตอบแล้วส่งสติ๊กเก้อรูปนมมาเต็มเต้าเลย แต่เป็นเต้าของวัวนะครับ ผมขำเลย ช่างสรรหาจริงแก)

BoomBaLAKa : ไม่ นมกลมๆเหมือนบอล ฉันเห็นลูกบอลจนชินแล้ว ฉันชอบแบนๆ

Supersalt : งั้นเชิญไปทางไอ้ยีนเลย

PrincessYEAN : อีเกลอ อิเลวววววว

นุ้งมีน : เกลือ ชื่อแกอีกไอดีคืออะไรวะ งง ชามมีไอเอนจี

Supersalt  : ไม่บอก

BoomBaLAKa : ชื่อเวปโป๊ที่มันชอบไปโหลดอะดิ

ManowTangduud : โหลดพร้อมมันสิท่าไอ้บูม

BoomBaLAKa : ว้ายย ใส่ร้าย ฉันเสียจาย

นุ้งมีน : ว่าแต่ไอ้บิวหายไปไหนนี่ สงสัยทำขนมอยู่แน่เลย

BoomBaLAKa : ปลายจวักทุกวันแบบนี้ มันคงใกล้ออกเรือนแล้วมั๊ง 55555

BoomBaLAKa : จะว่าไป ไอ้บิวมันต้องแอบมีแฟนแน่ๆเลยว่ะ

PrincessYEAN : ทำไมเหรอ แอบเห็นเหรอ แฟนมันหล่อไหม

Supersalt :แกไม่คิดกันเลยเหรอว่าแฟนมันจะสวย

PrincessYEAN : ไม่

นุ้งมีน : ไม่

BoomBaLAKa : ไม่

Supersalt : ฉันก็ว่าไม่

ManowTangduud : ก๊ากกก พวกแกจะตอบพร้อมกันไปไหมวะ ป่านนี้ไอ้บิวมันจามจมูกหลุดแล้ว

JOMTAP : พวกขี้เม้า

(ไอ้จอมใช้ไอดีอีกอันมาตอบ)

BoomBaLAKa : หูยยย แกไม่อยากรู้ว่างั้น

JOMTAP : อยาก

นุ้งมีน : 555555555 ทุเรศว่ะ เจือกพอกัน เร็วบูม แกอย่าออกทะเล ทำไมคิดว่าบิวมันมีแฟน

BoomBaLAKa : อ๋อออ พวกแกตั้งใจฟังให้ดีนะคืองี้นะ

(เงียบกันหมด รออ่านใจจดใจจ่อกันครับ)

BoomBaLAKa : คือ..ฉันเดา

JOMTAP : สัสบูม

BoomBaLAKa : ก๊ากกก แกอยากรู้ แกก็ถามมันดิ

Supersalt : ฟายบูม ฉันก็นึกว่ามีไรเด็ดๆ

ManowTangduud : พวกแกแยกย้ายกันไปนอนไป๊ คุยไรกันเยอะแยะ ไร้สาระนะพวกแก

BoomBaLAKa : ถึงจุดสุดยอดแห่งความสุขแล้วถีบหัวส่งเพื่อนเลยว่ะไอ้มนุษย์ต่างดาว

ManowTangduud : เออ พรุ่งนี้เอาหัวแกมาให้ถีบหน่อยนะ ไปดีกว่า น่ามคานนนพวกแกจริงๆ คึคึ ไปละ ฝันดี จุ๊บุ๊ๆ 555

ผมส่งข้อความสุดท้ายเสร็จก็หยิบไอแพดมาเปิดไอจีอีกรอบ แอบไปส่องไอจีพี่นภอีกครั้ง พี่เขาอยู่เชียงใหม่นี่เนอะตอนนี้ คงกำลังเล่นดนตรีอยู่ คนกดไลค์เยอะพอสมควร ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น ผมเลื่อนไอจีคนอื่นดูบ้าง รูปแก๊งค์ผมที่ไอ้จอมเอาลงไว้คนกดไลค์เยอะมาก ผมก็อยากจะลงบ้าง แต่จะลงอะไรดี ปกติไม่ค่อยลงหรอกครับ เอาไว้ส่องอย่างเดียว เคยอ่านตามเวปแฟนคลับของผม ก็มีบ่นๆว่าผมไม่ค่อยมาอัพเดทบ้างเลย ผมเลือกรูปในโทรศัพท์ว่าจะเอาอันไหนลงดี แล้วก็ตัดสินใจลงรูปเนื้อย่างที่ไปกินวันนี้ ถ่ายได้รูปเดียวเอง แบตมันจะหมด แถมภาพยังเบลอได้อีก

ผมลงภาพในไอจีเสร็จก็ถึงเวลาท่องโลกกว้างของผม ผมชอบตอนกลางคืนแบบนี้ครับ มันเงียบสงบ ไม่มีใครจะก้าวล่วงเข้ามาในโลกส่วนตัวของผม ผมจะจมอยู่กับโลกโซเชียล เป็นใครก็ได้ ไปไหนก็ได้ อยากรู้อะไร อยากเห็นอะไรก็ได้รู้ได้เห็น ผมชอบดูคนที่เขาเล่าเรื่องเวลาไปเที่ยวต่างแดน ไปแบบแบ็คแพ็คเกอร์ ถ้าผมไถ่บ้านคืนได้แล้วก็จะเก็บเงินเที่ยวรอบโลกบ้าง ผมเล่นจนเพลิน ตอนนี้ก็ปาไปเกือบจะตีสามแล้ว เริ่มจะง่วงแล้วเหมือนกัน ก่อนจะนอนเลยเข้าไอจีอีกรอบ ไอ้พวกเพื่อนผมมันมาก็มาคอมเมนท์แซวว่ากินไม่ชวน ผมเห็นข้อความจากแฟนคลับคนหนึ่งโพสว่า

ปิงปองกระเด้งดึ๋ง: ได้เอารูปให้แม่ดูแล้วนะพี่ แม่ดีใจมาก #แม่ข้าคือสาวกท่านนาว คริๆ..

ผมขำก่อนจะตามกดดูที่ไอจีของน้องเขา รูปแรกเป็นรูปแม่ของน้องเขากำลังดูรูปผมในโทรศัพท์ลูกสาวแล้วยิ้มกว้าง ผมยิ้มตาม ก่อนจะกดไลค์ให้น้องเขา รูปที่สองเป็นรูปหน้าเต็มๆของผมครับที่โดนถ่ายไว้ หน้าเหวอเชียว แต่ผมก็กดไลค์ให้อีกครับ รูปต่อมาเป็นรูปไอ้ธีมครับ น้องสองคนนี่ทำงานเป็นทีมดีมากครับ อีกคนถ่ายผม อีกคนแอบถ่ายไอ้ธีม มาไวไปไว แถมรูปนี่ชัดเป๊ะเชียว รูปมันกำลังปิ้งเนื้อกับรอยยิ้มน้อยๆของมัน พร้อมกับข้อความว่า

ปิงปองกระเด้งดึ๋ง: โอ้ย อยากซบอกพี่เขาจริงๆ อย่างกับเทพบุตร ได้สักทีจะให้ลูกบวชให้เลย...

มีปุ่มอันไลค์ไหมครับพี่น้อง ผมละหมั่นไส้มันจริงๆ นี่เขาแอบถ่ายแกนะ ทำไมแกยิ้มได้องศาเชียว แล้วดูรูปผมนี่ดิ ยังไม่ทันตั้งตัวเลย หน้าเหวอด้วยเหอะ เช๊อะ แต่มันคงไม่ได้มาดูหรอกและผมจะไม่บอกมันด้วย ไม่ได้อิจฉาเลยเหอะ แค่ไม่ใช่เรื่องของผม ผมวางไอแพดลงข้างตัว ลุกขึ้นคุกเข่าบนที่นอนแล้วสวดมนต์บทสั้นๆ กราบกับหมอน แล้วนึกถึงพ่อกับแม่ กราบกับหมอนอีกครั้ง ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนมองเพดาน จริงๆห้องนี้ถึงจะเป็นห้องใต้หลังคา แต่ไม่ได้เก่าหรือทรุดโทรมเลยแม้แต่น้อย กลับกัน มันถูกปรับปรุงซ่อมแซมใหม่หมด กว้างมากๆ  ตกแต่งอย่างดี มีเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่เอี่ยมครบครันแสนจะหรูหราด้วยซ้ำ ห้องน้ำนี่เพดานมองดาวได้เลยนะครับ มีอ่างจากุชชี่ให้ด้วย คุณเมธาวีให้สถาปนิกมาออกแบบให้ผมใหม่ทั้งหมด คุณคงจะบอกว่าชีวิตผมไม่เห็นจะเหมือนซินเดอเรลล่าสักนิดเลยใช่ไหมครับ ใช่ครับไม่เหมือนเลย

...ชีวิตผมสบายกว่าซินเดอเรลล่าในนิทานตั้งเยอะ แต่ผมไม่มีความสุขเท่าที่ควรจะเป็น ผมไม่ได้ต้องการนางฟ้าแม่ทูนหัวมาเสกรถฟักทองให้ ไม่ได้ต้องการห้องใหญ่ๆที่พร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ผมแค่ต้องการใครสักคน คนที่ทำให้ผมรู้จักความสุขที่แท้จริง คนๆนั้นจะใช่คนที่ผมคิดไว้รึเปล่าครับ อยากรู้จัง...


โปรดติดตามตอนต่อไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-03-2017 20:59:01 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
น้องนาวววว พี่ธีมต้องแอบยิ้มเพราะหนูแน่ๆเลยค่ะ :-[

ออฟไลน์ fanglest

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
ว้า  เสียใจด้วย
คงไม่ใช่ซะล่ะม้างงง
แอบซุกลูกซุกเมียไว้แน่เลย
หุหุ
 :impress3:

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
บทที่ 4


เช้าวันนี้ผมลงมาข้างล่างก็เจอพี่ชัชมานั่งรออยู่แล้วที่ห้องรับแขก คุณเมเรียกให้ผมไปกินข้าวต้มซี่โครงอ่อนที่ทำเอาไว้ให้เพราะรู้ว่าผมต้องไปแคสท์งานแต่เช้า แต่มันเช้าเกินไปผมยังไม่อยากกิน แต่คุณเมก็คะยั้นคะยอพูดถึงประโยชน์ของอาหารเช้าจนผมต้องกินเพื่อจะได้จบๆ พี่ชัชเองก็มานั่งกินด้วยเพราะคุณเมจัดเอาไว้ให้ด้วย คุณเมเอาตารางงานซ้อมเดินแบบงานการกุศลที่เธอจัดให้แก่พี่ชัช เราสองคนกินเสร็จก็ขอตัวไปทำงาน คุณเมไม่ลืมที่จะกำชับว่าให้ผมกลับมากินข้าวเย็นด้วยกัน เพราะเธอเตรียมเมนูปลาหมึกผัดไข่เค็มกับแกงป่าของโปรดของผมเอาไว้ให้แล้ว ผมไม่ได้ตอบรับอะไร ยกมือไหว้แล้วไปขึ้นรถ พี่ชัชตบบ่าผมเบาๆเพราะรู้ว่าผมกำลังอึดอัด จากนั้นก็พาผมไปยังสตูดิโอแถวๆรังสิตเพราะผมต้องไปไปแคสท์งานที่นั่น

งานที่มาแคสท์ในวันนี้เป็นซีรีย์สั้นๆมีแค่ 8 ตอน พี่ชัชบอกว่าทางผู้จัดต้องการตัวผมเป็นนักแสดงนำชายอยู่แล้ว แต่จะมาแคสท์นักแสดงนำหญิงที่จะคู่กับผม อยากหาคนที่เคมีเข้ากันกับผมมากที่สุด เป็นซีรีย์เกี่ยวกับความรักที่จะฉายเดือนกุมภาพันธ์ เมื่อผมมาถึงก็เจอคนที่มารอแคสท์งานนี้อยู่หลายคน เป็นนักแสดงหน้าใหม่ที่ไม่เคยร่วมงานกับผมเลย ผมยกมือขึ้นไหว้ทีมงานที่ดูว่าจะอายุมากกว่าผม บางคนก็คุ้นหน้าคุ้นตากันดี ทักทายเสร็จผมก็ไปนั่งรอในห้องที่เขาจัดเอาไว้ให้ อ่านบทที่จะให้ลองแคสท์ในวันนี้คร่าวๆ เป็นบทจีบกันกับฝ่ายหญิง ผมนั่งก้มหน้าอ่านอยู่ก็รู้สึกเหมือนถูกใครจ้องมองอยู่ เงยหน้าขึ้นดูก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่ง น่าจะวัยไล่เลี่ยกับผม เธอส่งยิ้มมาให้ผมอยู่ ผมส่งยิ้มกลับไปให้ตามมารยาท

“ยินดีที่รู้จักนะคะนาว” เธอทักขึ้นก่อนจะเดินเข้ามาหา

“ครับ” ผมตอบ

“ปิ่นค่ะ อายุเท่ากับนาวเลย เป็นลูกพี่ลูกน้องของพี่นภ ปิ่นมาแคสท์งานนี้เหมือนกันค่ะ” พอผมได้ยินชื่อลูกพี่ลูกน้องของเธอต่อมตื่นตัวทำงานทันทีเลยครับ แฮ่ๆ

“อ๋อ ครับ ยินดีที่รู้จักครับปิ่น”

“งานนี้เป็นงานแรก ตื่นเต้นจังเลยค่ะ เดี๋ยวต้องเข้าบทกับนาว ปิ่นเลยอยากมาทักทายก่อน เดี๋ยวจะได้ไม่เขินตอนแสดง”

“ครับ ขอให้สมหวังนะครับ “ ผมตอบก่อนจะยิ้มให้ปิ่นอีกครั้ง ผมเห็นคนที่มาแคสท์คนอื่นมองปิ่นกันใหญ่ สายตาก็ไม่ค่อยเป็นมิตรมากนัก แบบนี้แหละครับวงการมายา ไอ้ที่ว่าละครหลังข่าวหรือนิยายที่ว่าน้ำเน่า มันมีจริงทั้งนั้น ผมเจอคนไม่จริงใจมาก็เยอะ ดีว่าอยู่กับวงการนี้มาตั้งแต่เด็กๆ เลยจะระวังตัวพอสมควร

“ค่ะ ปิ่นเคยอ่านเจอในนิตยสารว่านาวปลื้มพี่นภ เดี๋ยวเย็นนี้ปิ่นต้องไปเจอพี่เขา จะฝากอะไรถึงไหมคะ”

“ฝากความระลึกถึงแล้วกันครับ” ผมไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมามากนัก ปิ่นทำมือบอกว่าโอเคก่อนจะเดินไปนั่งที่มุมห้องคนเดียว เธอดูสดใสร่าเริงดี ท่าทางจะเป็นคนที่มนุษย์สัมพันธ์ดี จะว่าไปอยากให้ปิ่นแคสท์งานนี้ได้เหมือนกันนะ ผมไม่ได้มีแผนอะไรจริงจริ๊ง ฮ่าๆๆ

การแคสท์ผ่านไปด้วยดี ทีมงานกล่าวขอบคุณทุกคนแล้วจะโทรไปแจ้งผลในวันพรุ่งนี้ ผมว่าคนที่มาแคสท์ในวันนี้ฝีมือสูสีกันแทบทุกคน ดูกล้าแสดงออกกันมากกว่าผมตอนแคสท์งานแรกๆเสียอีก ปิ่นเดินมาทักผมอีกรอบก่อนจะขอตัวกลับ ผมเองก็รีบเดินไปหาพี่ชัชที่รออยู่ในห้องแต่งหน้าเพราะเดี๋ยวมีอีเวนท์โชว์ตัวอีกงานหนึ่ง ผมเดินผ่านกลุ่มสาวๆที่มาแคสท์งาน ทุกคนส่งยิ้มมาให้ผม ผมก็ยิ้มกลับ เดินผ่านไปได้นิดเดียวก็ได้ยินเสียงเม้ามอยตามมาติดๆ

“แกเอ้ย เห็นหน้าใสๆ จริงๆมันแอ๊บแบ๊ว เห็นตอนทำไปตีสนิทนาวไหม อย่างกับรู้จักมานาน ฉันเรียนการแสดงที่เดียวกับนางมาหลายปี นางร้ายนะ”

“จริงดิ ดูเหมือนคุณหนูเนอะ เป็นญาตินภวงเดอะซาวน์ใช่ไหมแก”

“เออ ถ้านางได้งานนี้ เผลอๆก็เส้น เพราะซีรีย์นี้พี่นภมาทำเพลงประกอบให้”

“งั้นเราก็ชวดงานกันดิ เซ็งวะแก”

“เอาน่า อย่าเพิ่งพูดไปรอผลพรุ่งนี้ก่อนแล้วกัน”

ผมไม่ได้อยากเผือกเลยนะ เสียงมันลอยมาเข้าหูเอง ผมแค่เดินช้าๆแค่นั้นแหละ ไอ้ที่สาวๆเข้านินทากันมันไม่ได้มีผลอะไรกับผมนักหรอก แต่ไอ้ที่บอกว่าพี่นภจะมาทำเพลงประกอบให้นี่สิ ทำไมผมรู้สึกว่าช่วงนี้ผมจะได้ชื่อพี่เขาบ่อยกว่าปกติ แถมยังรู้สึกว่าจะได้ใกล้ชิดพี่เขามากกว่าเดิมหรือว่าพระเจ้าจะเห็นใจ ส่งเจ้าชายมาคืนความสุขให้ไอ้นาวบ้างแล้ว

“บ้ารึเปล่า ยิ้มคนเดียว” ฟิ้วววววววววววววว ตุ๊บ ไม่ได้มีอะไรตกภายในห้องนี้ครับ มีแค่ความสุขของผมถูกถีบตกจากสวรรค์อย่างแรง

“มาทำอะไร แล้วพี่ชัชละ” ผมถามเมื่อเห็นหน้าไอ้คนที่ถีบความสุขของผมหล่นกระเด็นกระดอนไป

“พี่ชัชคุยกับผู้จัดเรื่องสัญญา แม่ให้มารับนายไปลองชุด” ไอ้ธีมตอบ น้ำเสียงมันดูเซ็งๆ ผมก็เซ็งเหอะ

“เดี๋ยวมีงานต่อจะไปได้ไง ไม่รู้ตารางงานรึไง” ผมถาม

“งานเย็นไม่ใช่เหรอ”

“ต้องลองวันนี้เลย?” ผมเริ่มหงุดหงิด

“นายโทรไปถามแม่ดิ” มันตอบ ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ ถามไม่ถามก็คือต้องไปอยู่ดีเปล่าวะ รีบๆไปจะได้เสร็จๆ แม่มันก็จริงๆเลย บอกเมื่อวาน วันนี้ให้ลองชุด อะไรมันจะเร็วแบบนั้นวะ ท่าทางคงจะเตรียมการไว้นานแล้วมั๊งนี่ แล้วงี้จะมาถามความเห็นทำไมว่าไปงานให้แม่ได้ไหม บังคับเลยก็ไม่ต่างกันเปล่าวะผมกำลังหงุดหงิดสุดๆ

“บอกพี่ชัชก่อน”

“พี่บอกแล้ว ไปได้เลย” มันบอกเสร็จก็เดินนำออกไป

“ว้ายยยย ขอโทษค่ะ” เสียงของปิ่นครับ ตอนที่ไอ้ธีมมันกำลังจะเปิดประตู ปิ่นคงกำลังจะเปิดมาเหมือนกันประตูเลยกระแทกมือมัน

“ไม่เป็นไรครับ” แหมมมม ที่กับสาวๆตอบเสียงนุ่มเชียวนะแก

“ปิ่นลืมของค่ะเลยต้องกลับมาเอา” ปิ่นหันมาพูดกับผม ก่อนจะหันไปยิ้มให้ไอ้ธีม แก้มปิ่นแดง ดูเขินอายกว่าตอนคุยกับผมอีก สงสัยจะหลงเสน่ห์ความซกมกของไอ้ธีมอีกแล้ว

“ลืมอะไรครับ ผมช่วยหา” ผมถาม

“ผ้าพันคอค่ะ อ๊ะ อยู่ตรงนั้นพอดี ขอบคุณค่ะ” ปิ่นชี้ไป ผมเลยเดินไปเอามาให้

“ไปเถอะ เดี๋ยวไม่ทัน” มันหันมาบอกผม ผมเห็นแววตาของปิ่นที่มองมาก็พอจะเดาออกว่าอยากให้แนะนำไอ้โหดให้เธอได้รู้จัก ถึงจะไม่อยากแนะนำว่าเกี่ยวข้องกับมันยังไง แต่ด้วยมารยาทเลยต้องแนะนำ

“ปิ่นนี่พี่ธีม พี่ธีมนี่ปิ่น”

“สวัสดีค่ะพี่ธีม” ปิ่นยกมือไหว้ ไอ้ธีมยกมือรับไหว้แทบไม่ทัน ผมละอยากจะขำ หน้ามันเหวอๆนิดๆ

“เราต้องขอตัวก่อนนะ มีงานรออยู่” ผมรีบขอตัวเพราะไม่อยากแนะนำว่ามันคือพี่ชาย ปิ่นพยักหน้าให้ก่อนจะหันไปยิ้มกับไอ้พี่ธีมอีก ส่วนไอ้พี่ธีมก็เดินตามออกมา มันสะบัดมือตัวเองบีบๆนวดๆ คงจะเจ็บ เสียงกระแทกดังอยู่เหมือนกัน

“ขับรถไหวเปล่า” ผมถาม

“อย่าหวังจะได้ขับลูกชายพี่เลย”

“นาวไม่ได้คิดจะขับ ที่ถาม เพราะถ้าพี่ขับบไม่ไหวนาวจะได้ไปแท็กซี่ ไม่อยากไปกับคนพิการ” ผมตอบทันควัน รู้ว่ามันหวงรถมากครับ สักวันฉันจะขีดให้เป็นลายไส้เดือนพันต้นตะขบให้รอบคันเลย

“ไม่อยากไปกับพี่ก็ตามใจ เดี๋ยวพี่โทรบอกแม่ แม่คงมารับนาวเอง” มันพูดจบก็เดินไปเลยครับ ผมแค่ได้ยินว่าต้องไปกับแม่ของมันก็รีบเดินตามมันไปติดๆ

“นาย นาย” ผมเรียกมัน แต่มันไม่ได้หยุด

“พี่ธีมครับ” ผมแอบเบ้ปากก่อนจะเรียกมันใหม่ ได้ผล คราวนี้มันหยุดเดิน

“อะไรของนายอีก” แหม ทำมาหงุดหงิด ถ้าแม่คุณไม่ยุ่งกับผม ผมจะต้องมาพบมาเจอนายไหม พูดดด

“ขอไปซื้อขนมไข่หงส์ตรงนั้นก่อนดิ อยากกิน หากินยากอะ” ผมชี้ไป ตอนเด็กๆแถวบ้านผมมีขาย อร่อยมาก ผมชอบ ข้างนอกมันจะเป็นแป้งทอดเคลือบน้ำตาล ข้างในเป็นถั่วบดเอามาผัดเค็มๆหน่อย หอมกลิ่นพริกไทด้วย มันพยักหน้า ผมเลยวิ่งไปซื้อ คุณป้าคนขายจำผมได้ว่าผมเคยเล่นละครที่ป้าแกชอบเลยแถมมาให้อีกสามสี่ลูกด้วยความเสน่ห์หา ผมยกมือไหว้ขอบคุณป้าก่อนจะเดินมาขึ้นรถอย่างอารมณ์ดี

“กินเปล่า” ผมถามมัน มันส่ายหน้า

“อร่อยนะ” ผมถามอีก แกล้งมันครับ มันไม่ค่อยชอบขนมหวาน แต่คุณเมมักจะทำขนมหวานติดบ้านตลอด เหตุผลคือผมชอบ ไม่รู้เพราะเหตุนี้รึเปล่า มันกับธารถึงไม่ค่อยชอบหน้าผมนัก คุณเมชอบเอาใจผมจนออกนอกหน้า มันเกินพอดีจนดูเหมือนเสแสร้ง

“ไม่กินจริงดิ” ผมเห็นมันขมวดคิ้วแล้วครับ คึคึ แกล้งมัน คือ สนุก

“กิน” มันตอบ อ้าว มันไม่ชอบขนมหวานนี่ มาแย่งผมอีก ผมถามตามมารยาทนะเว้ย

“อะ ลูกเดียวพอนะ” ผมยื่นถุงให้มัน

“ยื่นมาแล้วคิดว่าพี่หยิบถนัดไหม ชวนพี่กินนักก็ป้อนดิ” มันบอก นั่นๆๆ คิดจะแกล้งให้ผมกระอักกระอวนใจเหรอ ไม่ได้ผลหรอก มันนั้นแหละที่จะต้องหนาว อยากได้ก็จัดให้

“อ๊ะ อั้มมมม” ผมยื่นขนมไปถึงปากมันเลย ยิ้มละไมส่งให้ด้วย มันเหลือบมามองผมด้วยหางตา นิ่งอึ้งอยู่นาน คงไม่คิดว่าผมจะป้อนละซี๊ คงคิดว่าผมจะหงุดหงิด ทำปั้นปึงเขินอายเหมือนในละครเหรอ ฝันไปป๊าววววแก

.....อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

เมื่อกี้ผมยังรู้สึกตัวเองว่าน็อคมันด้วยฮุคขวา หักงวงไอยราแล้วก็เสยปลายคางมันอยู่เลย ทำไมตอนนี้ผมกลับเป็นฝ่ายถูกน็อคแบบไร้ชีวิตไปเลยครับ อ๊ากกก

ก็..

ก็.....

ก็.......

ไอ้พี่ธีมมันงับขนมในมือผม

แล้ว..

แล้ว.....

แล้ว.......

แล้ว..พอผมจะชักมือกลับมันก็เอามือมันมาคว้ามือผมไว้แล้วเอานิ้วผมไปดูดครับ สตั๊น!! บอกเลยว่า สตั๊นไปหลายนาที เหมือนสัตว์ที่ถูกสต๊าฟยังไงยังงั้น จนกระทั่งมันปล่อยมือผมออกแล้วหัวเราะ

“โอ้ยยยย มีเชื้อเอดส์เปล่าวะ ยี้ น้ำลายเหนียวเหมือนหมาปั๊กเลย” ผมรีบเอานิ้วเช็ดกับเบาะรถมันเลย

“นาว!! อย่าเช็ดเบาะรถ แต่อร่อยดีว่ะ เขาเรียกขนมอะไรนะ” มันถามเสียงใสอย่างคนอารมณ์ดี ตั้งใจจะเยาผมใช่ไหมไอ้ธีม

“เขาเรียก ขนมไข่ เหี้ย!!!!!!!!!” ผมตะโกนคำหลังดังๆ มันชะงักไป มองผมดุๆ

“ปากนี่นะ” มันบ่นแล้วก็ยิ้มออกมาอีก

“ไม่เชื่อเหรอ สมัยนี้เขาเรียกไข่หงส์ แต่สมัยก่อนเขาเรียกไข่ เหี้ย!!!” ผมเน้นคำหลังอีก

“เหรอ” มันถามสั้นๆแล้วก็ยิ้มอีก กวนตีนนะแกผมจะถือว่าให้หมามันเลียนิ้ว แม่ม มันเลิกกลัวเกย์แล้วเหรอวะ ผมนึกด่ามันในใจ

“เออ” ผมตอบ

“นาว” มันเรียก

“...” ผมไม่ตอบรับ

“นาว”

“..........”

“นาววววว”

“จิ๊ อะไร!!”

“แล้วนาวไปไข่ให้เขาขายตั้งแต่เมื่อไหร่วะ”มันถามผมพร้อมกับยักคิ้ว

สตั๊นรอบสองครับ ไปต่อไม่ถูก เวลาโมโหสมองตันชั่วขณะ ไอ้ธีมหัวเราะลั่นรถ ผมได้แต่เชิดหน้ามองข้างหน้า พยายามปุจฉา วิสัตว์ธีม เอ้ย วิสัจฉนา คิดๆๆ จะเอาคืนมันยังไงดี ตอนนี้ยังคิดไม่ออก ให้มันหัวเราะนำไปก่อนเลย เดี๋ยวผมค่อยทบต้นทบดอกอีกทีเดียว

..โว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย  หงุดหงิดสัสๆเลย.....

“พี่ธีม” ผมนั่งเงียบมาจนถึงห้องเสื้อชื่อดัง ผมเรียกมันก่อนจะลงจากรถ

“อะไร นึกว่าออกไข่จนไม่มีแรงพูด” มันยังไม่เลิกครับ เดี๋ยวก็รู้ หึหึ

“แค่จะบอกว่า...”

“................” มันมองหน้าผมเพราะผมเว้นการพูดไว้แป๊ปนึง

“ไอ้ที่กินเมื่อกี้มันไข่เหี้ยจริงๆ ไม่ใช่ไข่นาว ไข่นาวพี่ธีมไม่ได้แอ้มหรอกครับ แต่ไข่พี่ธีมอะ ถูกเพื่อนแอ้มไปแล้วสินะ”

ผมพูดจบก็รีบเปิดประตูรถออกไปเลย ก่อนจะปิดประตูรถดังปังแล้วเผ่นเข้าไปในร้าน อยากจะระเบิดหัวเราะให้ดังแต่ต้องระงับไว้0เดี๋ยวคนแถวนี้นึกว่าผมเสียสติ หน้ามันในตอนนี้คงจะบูดเบี้ยวไปด้วยความโกรธปนอายเหมือนเคย หึหึหึผมบอกแล้ว เวลาโมโหมันคิดไม่ทันเว้ย พอได้ใช้สมาธิเป็นไงละมุขผม เจ็บจี๊ดเลยไหม สมน้ำหน้า ตอนนี้อยากแก้แค้นผมก็ไม่ได้แล้วสินะ แม่มัน

อยู่แบบนี้ผมไม่กลัวหรอกจะบอกให้ คึคึคึคึ

“น้องนาวมาแล้ว นี่คุณป้าลดา เจ้าของห้องเสื้อลดา คุณป้าลดาร่วมเป็นสปอนเซอร์ให้กับแม่ด้วย แล้วนี่ก็คุณบอย คนที่จะคุมเรื่องแฟชั่นในงานทั้งหมด ส่วนนี่ก็น้องนุ้ย ลูกสาวคุณป้าลดาค่ะลูก” คุณเมเดินมาจูงมือผมไปแนะนำผู้ใหญ่ ผมยกมือไหว้ทุกคนก่อนจะรับไหว้น้องนุ้ย

“ลูกชายคุณเมหล่อมากเลยนะคะ สมแล้วที่เป็นดาราดัง เพิ่งเจอตัวจริงวันนี้เอง ลูกสาวป้าเป็นแฟนคลับน้องนาวเลยนะคะ” คุณลดาบอกด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ส่วนลูกสาวของเธอยืนหลบหลังแม่ คงจะเขิน แต่ผมนี่สิ เริ่มไม่สบอารมณ์ตรงที่บอกว่าเป็นลูกชายของคุณเม

“อ้าวพี่ธีมมาพอดี มานี่ลูก” คุณเมเรียกไอ้ธีมมาแนะนำกับคุณลดา คุณลดารับไหว้มันแต่ก็มองมันหัวจรดเท้า ก็แหงละ มันมาในชุดกางเกงยีนส์เก่าๆฟอกสี ท่อนบนสวมเสื้อกล้ามแล้วสวมแจ็คเกตหนังดำทับอีกที ที่สำคัญ รองเท้าแตะครับ คุณเมก็เหมือนจะส่งสายตาตำหนิมันนิดหน่อย

“พี่ธีมกับน้องนาวตามพี่บอยไปลองชุดด้านในเลยค่ะ” คุณเมบอก เดี๋ยวนะ มันเดินแบบด้วยเหรอ ไหนว่าร้องเพลงอย่างเดียว เหมือนคุณเมจะรู้ว่าผมคิดอะไร

“พอดีแม่เปลี่ยนใจให้พี่ธีมเดินแบบด้วยค่ะ” ผมฟังเฉยๆไม่ได้แสดงท่าทีอะไรแล้วเดินตามคุณบอยไป ส่วนมันรีบเดินมาตีคู่กับผม เวรละ มันจะมาแก้แค้นผมรึเปล่าวะนี่ ชักหวาดๆ ผมรีบๆเดินไปถึงห้องลองเสื้อด้านใน

“ราวนี้ของน้องนาวนะฮะ ส่วนราวนี้ของน้องธีม พี่จัดเข้าชุดกันไว้แล้ว ลองเปลี่ยนให้พี่ดูที่ละชุด เราจะเดินแค่สามชุดจากทั้งหมด พี่จะออกไปรอข้างนอกนะคะ” พี่บอยแต่ตัวหัวใจเป็นเกิร์ลจีบปากจีบคอบอกพวกผม ผมพยักหน้า พี่เขาก็เดินออกไปจากห้อง ตายละหว่า อยู่กับมันสองคน ผมรีบยกมือปิดหน้าผากเมื่อเห็นมันเดินเข้ามาใกล้ๆ

“หึหึ พี่ไม่ดีดเหม่งนาวหรอก แต่..” คือนึกภาพตามนะครับ ผมยืนหันหลังให้ราวเสื้อของมันไงครับ ที่นี้มันเดินมาหยิบเสื้อ แต่แทนที่มันจะเลี่ยงตัวของผมไปหยิบตรงอื่น มันมายืนตรงหน้าผม หยิบอ้อมตัวผมไป ผมเลยประจันหน้าและอยู่ในวงแขนของมันแบบระยะเผาขน

“แต่อะไร” ผมยังไม่เอามือลงจากหน้าผาก ปลอดภัยไว้ก่อน แล้วถามเสียงห้วนๆ

“..................” มันเหมือนจะพูดอะไร แต่แล้วมันก็ไม่พูดยืนจ้องหน้าผมแป๊ปนึงแล้วก็หยิบเสื้อที่ราวไปเปลี่ยนในห้องลองชุด

“อะไรของมันวะ สงสัยเมาไข่” ผมบ่นเบาๆ

“พี่ได้ยินนะ” เสียงมันลอดออกมา ผมรีบหยิบชุดของผมไปลองในห้องบ้าง ก็ว่าบ่นเบาๆแล้วนะ หูมันเจือกดีไปอีก

ผมลองสวมใส่ชุดเสร็จก็เดินออกมาจากห้องแต่ก็ไม่เห็นไอ้ธีมแล้ว มันคงเดินออกไปแล้ว ผมเลยเดินออกไปหาพี่บอยที่ด้านนอกบ้าง เดินไปถึงก็ต้องอึ้งไปนิดหน่อย ก็ไอ้ธีมในชุดที่มันใส่เปลี่ยนมันเหมือนคนละคน ถึงใบหน้ามันยังซกมกอยู่ แต่อย่างที่ผมเคยบอก หุ่นมันดี พอใส่ชุดพวกนี้แล้วดูดีทะลุความติสท์แตกของมันจริงๆ มันเกาหัวท่าทางเขินๆเพราะคุณป้าลดายืนชมมันยกใหญ่ต่างจากตอนเจอมันครั้งแรกจากหน้ามือเป็นหลังธีม เอ้ย หลังตีน ส่วนน้องนุ้ยทำหน้าเคลิ้มเลยครับ ทำไมทุกคนต้องนิยมความซกมกครับ ต้องผมนี่สะอาดหล่อละมุน มาเคลิ้มผมนี่ ชิ

“น้องนาวมาแล้ว ดูดีอย่างที่คิดจริงๆ อิจฉาคุณเมเหลือเกินนะคะ ลูกๆหน้าตาดีทุกคนเลย สงสัยวันหลังต้องขอยืมตัวมาถ่ายชุดคอลเลคชั่นใหม่ๆบ้างแล้ว” คุณลดาเดินมาจัดชุดให้ผมก่อนจะหันไปบอกกับคุณเม

“ยินดีค่ะคุณลดา เมื่อไหร่ก็โทรบอกเมได้เลยค่ะ” คุณเมตอบ

“ผมไปลองชุดอื่นก่อนนะครับ” ผมพูดก่อนจะเดินหันหลังไปเลย คงพอจะรู้กันใช่ไหมครับว่าผมหงุดหงิดเรื่องอะไร

ผมลองชุดจนครบเซ็ทที่คุณบอยจัดให้ กำลังจะโทรหาพี่ชัชให้รีบๆมารับ ผมรู้สึกอึดอัดทุกครั้งที่คุณลดาชมผม ไม่ได้รำคาญคำชมนะครับ แต่รู้สึกอึดอัดที่คำชมนั้นส่วนใหญ่จะชมเรื่องผมเป็นลูกคุณเม ยิ่งตอนชมว่าดวงตาผมสวยเหมือนคุณเม ผมอยากตะโกนบอกว่า ดวงตาผมเหมือนแม่ของผมต่างหาก ทำไม ไม่เข้าใจ ผมเป็นลูกของรองนางสาวสยาม ผมเป็นดารามาตั้งแต่เด็กๆ ชื่อเสียงก็มีไม่น้อย ทำไมทุกคนถึงได้ลืมประวัติแท้ๆของผม หรือทุกคนจงใจลืมผู้ให้กำเนิดที่แท้จริงของผมกัน

“นาวจะออกไปกับพี่เลยไหม” มันเดินมาถามผมที่นั่งอยู่ในห้องลองชุด พี่ชัชไม่ยอมรับสายสักที

“รอพี่ชัช” ผมตอบสั้นๆ

“ตามใจ” มันเดินเข้าไปเปลี่ยนชุด สักพักก็ออกมาเตรียมจะเดินออกไป

“เดี๋ยว ไปด้วย” ผมเปลี่ยนใจ พี่ชัชยังไม่รับสาย ขืนรอนานผมคงต้องไปพร้อมกับคุณเมแน่ ยอมติดรถมันออกไปลงข้างนอกแล้วไปต่อแท็กซี่เอาดีกว่า ผมเดินตามมันออกไป มันบอกคุณเมว่าจะไปส่งผมเอง คุณเมพยักหน้ารับรู้ ผมกับมันไหว้ลาพี่บอยกับคุณลดาก่อนจะเดินไปขึ้นรถมัน

“ส่งตรงนี้ก็ได้” ผมบอกมันเมื่อออกมาถึงถนนใหญ่ที่พอจะเรียกแท็กซี่ได้ง่ายๆ

“มีงานที่XX ไม่ใช่เหรอ” มันถาม

“ไปเองได้”

“พี่ขี้เกียจโดนแม่บ่น เดี๋ยวไปส่ง นาวโทรบอกให้พี่ชัชไปรอนาวที่งานเลยแล้วกัน” มันบอกหรือเรียกอีกอย่างว่า มันสั่ง ผมก็ทำตามที่มันบอก ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะขัดขืน เอ๊ะ ใช้คำว่าขัดขืนมันทะแม่งๆไหม แหะๆ ยังไม่ทันจะต่อสายหาพี่ชัช พี่ชัชก็โทรเข้ามาพอดี

“ครับ ผมโทรหาพี่ตั้งหลายรอบ อ้าว แล้วเป็นอะไรมากไหมครับ ได้ครับ ไม่ต้องห่วงผมเลย เดี๋ยวเลิกงานแล้วผมจะแวะไปหาพี่นะ หายไวๆนะครับ” พี่ชัชโทรมาบอกว่าอยู่โรงพยาบาลครับ แกท้องเสียตั้งแต่เมื่อคืน แต่มาเป็นเยอะเมื่อสักพัก หมอบอกว่าแกติดเชื้อในทางเดินอาหาร คงต้องนอนที่โรงพยาบาลคืนหนึ่ง


ธีมมันมาส่งผมถึงที่จัดงาน ผมไหว้ขอบคุณมัน ไม่รู้สิครับ ผมเป็นคนมือไม้อ่อน แต่ปัญญาไม่อ่อนนะครับ  ต่อให้ไม่ชอบขี้หน้ามันยังไงหรือไม่ว่าจะกับใครก็ตาม ถ้าอายุเยอะกว่าผม ผมก็จะไหว้สวัสดี ไหว้ขอบคุณ ขอโทษ แล้วแต่สถานการณ์เสมอ พ่อผมสอนมาดีในเรื่องนี้ครับ สำหรับไอ้ธีม ถ้าเจอกันทุกวันๆตอนเช้าผมไม่ได้ไหว้ แต่จะไหว้ขอบคุณถ้ามันมาส่งหรือทำอะไรให้สมควรแก่การไหว้ก็ไหว้ครับ มันพยักหน้าให้ ผมก็เดินเข้าไปในงานไม่ได้หันมายืนรอส่งมันหรอก เสียเวลา
กว่างานจะเสร็จก็ปาไปเกือบสองทุ่ม ผมเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็เดินออกจากงานมารอเรียกแท็กซี่เพื่อที่จะไปเยี่ยมพี่ชัชที่โรงพยาบาล ผมพยายามจะเลี่ยงๆในที่ๆมีผู้คนเยอะๆ เลยว่าจะเดินเลยไปตรงป้ายรถเมลล์อีกนิด แต่ยังไม่ทันที่เดินจะไปไหนก็ได้ยินเสียงเรียกชื่อผมเสียก่อน

“น้องนาว” กรี๊ดดดดด ผมแทบกรี๊ดแตกเมื่อคนที่เรียกผมคือคนที่ทำให้ผมหลับอย่างมีความสุขเมื่อคืนนี้

“พี่นภ สวัสดีครับ”

“สวัสดีครับ จะไปไหนเอ่ย”

“ผมจะไปเยี่ยมผู้จัดการส่วนตัวที่โรงพยาบาลครับ พี่นภกลับมาจากเชียงใหม่แล้วเหรอครับ”

“ครับ ขึ้นเครื่องมาเมื่อเช้า แล้วจะไปยังไงครับ”

“ว่าจะเรียกแท็กซี่ไปครับ”

“งั้นเดี๋ยวพี่ไปส่ง” พี่นภพูดจบผมก็รู้สึกเหมือนได้พิชิตยอดเขาเอเวอเลส เยส!! คึคึแสนจะเป็นสุภาพบุรุษสึสๆ

“จะรบกวนพี่นภไปเปล่าครับ”

“พี่ว่าง ไป เดี๋ยวพี่ไปส่ง”

“ขอบคุณมากครับ” ผมเดินตามพี่เขาไป รู้สึกว่าหัวใจตัวเองมันเต้นตึกๆๆ ไม่รู้ว่าจะหุบยิ้มยังไงดี อยากซอยเท้าแล้วเต้นบัลเลต์ไปจนถึงรถเลยครับ ฮ่าๆๆ

“ได้ข่าวว่าพี่ได้ทำเพลงให้กับซีรีย์เลิฟด้วยใช่ไหมครับ” ผมชวนพี่นภคุยระหว่างทาง ให้นั่งเงียบๆกลัวพี่เขาได้ยินเสียงหัวใจผม ก๊ากๆ

“ใช่ครับ เมื่อสักพักเจ้าปิ่นก็โทรมาบอกว่าเจอนาว รู้จักกันแล้วใช่ไหม”

“ครับ”

“พี่ชอบนาวนะ” ห๊ะ ห๊ะ ห๊า พี่นภครับ คือ คือ บับว่า คือ.....

“พี่ชอบการแสดงของนาว พี่ดูทุกเรื่องเลยนะ” โอ้ย พี่นภคร้าบ วันหลังกรุณาทำประโยคให้สมบูรณ์ในประโยคเดียวได้ไหมคร้าบบบ ผมหัวใจจะวาย จริงๆก็วายตั้งแต่เจอพี่แล้วละ ฮริ้ว

“ขอบคุณมากครับ ผมยังต้องพัฒนาอีกเยอะเลย” ผมว่าตัวเองคงหน้าแดงแน่ๆ เพราะรู้สึกว่าผิวหน้ามันร้อนวูบๆ

“ถึงแล้ว เดี๋ยวพี่ขออนุญาตขึ้นไปด้วยได้ไหมครับ ไหนๆก็มาแล้ว เดี๋ยวจะได้ไปส่งนาวที่บ้านด้วยเลย”

“แต่จะไม่เสียเวลาพี่เหรอครับ” ผมเกรงใจพี่เขาจริงๆ

“ไม่หรอกครับ พี่บอกแล้วไงว่าว่าง” ผมส่งยิ้มให้พี่เขา เริ่มต้นวันมีแต่เรื่องเซ็งๆ พอตกกลางคืนแสนจะมีความสุข ชีวิตไอ้นาวมันถูกโฉลกกับพระจันทร์จริงๆ

“ขอบคุณมากครับพี่”

ผมพาพี่นภขึ้นไปเยี่ยมพี่ชัช พี่ชัชคุยกับพี่นภเรื่องเพลงกันจนถูกคอ จริงๆพี่ชัชรู้จักพี่นภมาก่อนแล้ว แต่ไม่ได้สนิทสนม อย่างว่าแหละครับ พี่ชัชอยู่ในวงการนี้มานานกว่าผม นอกจากเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้ผมก็ยังมีงานอื่นๆในวงการที่พี่เขาทำด้วยเหมือนกัน ที่เขารับอาสามาดูแล เพราะพ่อของผมเคยช่วยเหลือพี่เขามาก่อน ก็ตอบแทนบุญคุณกันไปครับ เป็นญาติๆกันด้วย ถึงจะญาติห่างๆแต่เขาก็ดูแลผมมาตั้งแต่เด็กเลย พี่เขาเลยรักผมและดูแลผมเหมือนกับเป็นลูกหลานแท้ๆไปแล้ว คุยกันจนผ่านไปเกือบชั่วโมง นี่ก็ดึกแล้ว ผมกับพี่นภเลยขอตัวกลับเพราะพี่ชัชจะได้พักผ่อน พี่นภมาส่งผมถึงที่บ้าน ไฟในบ้านเปิดสว่างโล่งเลย ผมรู้สึกว่าความสุขมันหดลงทันทีที่ถึงบ้าน

“พี่ขอโทษนะครับที่ไม่ได้เข้าไปสวัสดีผู้ปกครองของน้องนาว พอดีติดธุระด่วนจริงๆ”

“ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมากนะครับที่มาส่ง”

“ยินดีครับ”

ผมรู้สึกดีที่พี่นภไม่บอกว่าจะเข้าไปสวัสดีคุณแม่ของผม แปลกใจเหมือนกันว่าทำไมพี่นภใช้คำว่าผู้ปกครอง จริงๆพี่นภชวนผมไปทานข้าวเพราะรู้ว่าผมยังไม่ได้กิน แต่พอดีมีสายเข้า คงจะมีธุระจริงๆ ผมเลยบอกว่าไม่เป็นไรเพราะที่บ้านคงทำกับข้าวเอาไว้แล้ว ผมไหว้ขอบคุณพี่นภก่อนจะเดินเข้าไปในบ้าน ไม่ผิดแบบที่คิด คุณเมยังไม่นอน เธอเห็นผมก็รีบลุกเดินมาหา เดี๋ยวคงโดนซักฟอกยกใหญ่ เพราะผมไม่ยอมรับโทรศัพท์คุณเมเลย เธอโทรหาผมตั้งแต่ตอนเลิกงาน ผมขี้เกียจรับ ขี้เกียจตอบคำถาม

“กลับมาแล้วเหรอคะน้องนาว พี่ชัชเป็นยังไงบ้าง” เธอถาม ผมแปลกใจที่คุณเมรู้ สงสัยจะโทรหาพี่ชัชแล้ว

“ก็รักษาตัวอยู่ครับ”

“ไปกินข้าวเถอะ ยังไม่ได้กินมาเลยใช่ไหมคะ แม่ให้ป้าสายหยุดอุ่นกับข้าวเอาไว้แล้ว ร้อนๆเลย” ผมเดินตามคุณเมไปที่ห้องทานข้าว ชักเริ่มขนลุกเบาๆที่คุณเมเหมือนจะรู้การเคลื่อนไหวของผมทุกอย่างจริงๆ ผมนั่งลงที่โต๊ะอาหาร เห็นมีจานจัดไว้สองชุด อย่าบอกนะว่าคุณเมรอกินข้าวพร้อมผม นี่มันสี่ทุ่มกว่าแล้ว

“เดี๋ยวแม่ขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ ทานเสร็จก็รีบขึ้นไปพักไปพักผ่อนนะคะน้องนาว วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว” คุณเมบอกผม เธอลูบผมของผมก่อนจะเดินออกจากห้องไป

แล้วคำถามที่ผมสงสัยก็ได้คำตอบ คนที่เดินสวนคุณเมเข้ามาคือไอ้ธีมครับ มาทิ้งตัวลงนั่งตรงกันข้ามกับผม คงจะเพิ่งกลับมาเหมือนกัน มันไม่พูดไม่จากับผม ตักข้าวใส่ปากรัวๆเหมือนคนอดยาก ไม่ส่งสายตากวนตีนให้ผมเหมือนทุกที ผมก็เลยไม่สนใจมัน ต่างคนต่างกินไปแบบเรียบง่าย เรียบร้อย สงบสุข จริงๆนะ ไม่เชื่อเหรอ แหม อะๆ ยอมรับก็ได้ ผมแกล้งมันนิดหน่อย ผมดึงจานปลาหมึกผัดไข่เค็มมาตั้งตรงหน้าผม มันเลยเอื้อมไม่ถึง มันเลยได้แต่กินแกงป่ากับไข่เจียวไปเงียบๆ เงียบจนผมเซ็ง ไม่สนุกเลย ปกติมันต้องเหวี่ยงสายตาอาฆาตมาแล้ว แต่ก็ช่างมัน สงบแบบนี้ก็ดีแล้ว ผมกินจนอิ่มก็ลุกขึ้น มันก็ยังนั่งกินเงียบๆไม่แม้แต่จะมองผม  ผมแอบเบ้ปากใส่มันแล้วเดินขึ้นห้องไป สงสัยมันยังเมาไข่เหี้ยอยู่ครับ ฮ่าๆๆ


โปรดติดตามตอนต่อไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-03-2017 21:05:25 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ fanglest

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
ทำไมนาวชอบแกล้งพี่ธีมแบบนี้
ธีมชอบนาว แน่เลย
เป็นธีมนี่ยากจริงๆนะ จะจีบก็ไม่ได้
จะบอก ก็ไม่ดี  เฮ่อ ถ้าเกิดเป็นลูกคนอื่น นาวคงไม่แอนตี้ขนาดนี้ใช่มะ
คุณเมทำไมต้องอดทนเพื่อนาวขนาดนี้นะ
 :m31:

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
พี่ธีมนี่อะไรยังกับน้องนาวครับเนี่ย
อย่าช้านะ เดี๋ยวมีคนอื่นมาจีบน้องไปก่อน อิอิ

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
นาวโดนพี่ธีมงอนแล้วแน่ๆ -3-  :hao4:
แฮปปี้นิวเยียร์ค่าาาาา :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
บทที่ 5


ผมกระโดดขึ้นเตียงนอนนุ่มๆหลังจากที่เป่าผมจนแห้งดีแล้ว  หยิบสารพัดเครื่องมือสื่อสารมากองไว้ข้างตัว วันนี้ไลน์กรุ๊ปเงียบมากครับ สงสัยพวกมันคงยุ่งๆกัน ใกล้จะปีใหม่แล้วด้วย งานเข้ากันทั้งนั้น ผมหยิบไอแพดมาเปิดดูไอจี ส่องของใครคงไม่ต้องบอก แฮ่ๆ แต่แล้วก็ต้องแปลกใจ รูปมะนาวฝานที่พี่นภลงไว้เมื่อคืนก่อนหายไปแล้ว ใจผมห่อเหี่ยวลงในทันที พี่เขาลบออกไปแล้วเหรอ เกิดอะไรขึ้นรึเปล่า รูปอื่นก็ยังอยู่ครบ ตอนนี้ผมเลยไม่มีอารมณ์จะท่องโลกกว้างผ่านอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงแล้วครับเลยหยิบไอโฟนขึ้นมาเปิดไลน์กรุ๊ปแทน

ManowTangduud : เงียบจัง ไปไหนกันหมดวะ

เงียบ ไม่มีใครตอบ ผมนั่งจ้องจอไอโฟน หวังเพียงแค่มีใครสักคนตอบกลับมา ในใจตอนนี้มันโหวงเหวงบอกไม่ถูก มันขึ้นว่า มีคนอ่านแล้วหนึ่งคน แต่ก็ยังไม่มีการตอบกลับ จนกระทั่งมีคนทักไลน์มา แต่ไม่ใช่ในกรุ๊ป

ชามมีไอเอนจี: มีไร

(ไอ้เกลือครับ มันทักแยกมา ไอดีอันนี้คือไอดีจากไอแพดมัน คงกำลังส่องสาวอยู่แน่ๆ มันทักแยกมาก็ดีเหมือนกัน ไม่อยากห่อเหี่ยวให้ฝูงไฮยีน่ารุมซ้ำเติม)

ManowTangduud : แก พี่นภเขาลบรูปมะนาวเมื่อวานแล้วว่ะ

ชามมีไอเอนจี: แกรู้ได้ไงว่าเขาลบ

ManowTangduud : ก็มันไม่มีแล้ว ถ้าไม่ลบ ภาพมันจะเล่นอีแอบเองรึไงแก

ชามมีไอเอนจี: ไอจีมันรวนๆอยู่เปล่า

ManowTangduud : ปลอบใจฉันอะดี้

ชามมีไอเอนจี: เออ ฉันสงสาร หน้าแกตอนนี้คงเหมือนหมาเดือนสองที่หาคู่ไม่ได้

(มันพิมพ์มาแล้วส่งสติ๊กเก้อควายหัวเราะตามมาติดๆ เออ แกมันฟาย เหมาะมาก)

ManowTangduud : ....

(ผมส่งแต่จุดไป)

ชามมีไอเอนจี: คิดมากแก รูปเมื่อวานมันอาจจะไม่มีความหมายอะไรเลยก็ได้ ภาพพวกนี้มันเป็นแค่ภาพนะ มันบอกความรู้สึกที่แท้จริงไม่ได้หรอก เหมือนแกลงรูปเนื้อย่างเมื่อวาน แกนึกอะไร

ManowTangduud : ก็ไปกินมา ก็ลงเฉยๆ

ชามมีไอเอนจี: เออ แกลงเพราะอยากลง แล้ววันนี้แกเกิดอยากลบเพราะแกถ่ายได้ห่วยมาก แปลว่าแกก็ไม่ได้คิดอะไร แค่อยากลง แล้วก็อยากลบ ถูกไหม

ManowTangduud : ก็จริงของแกฉันดีใจไปเอง เสียใจไปเองเสร็จสรรพเลย 555

ชามมีไอเอนจี: แกชอบพี่เขามากจริงๆเหรอวะ

ManowTangduud : ไม่รู้ดิ แต่พี่เขาทำให้ชีวิตฉันไม่เหมือนทุกวัน

ชามมีไอเอนจี: ยังไง

ManowTangduud : อธิบายไม่ถูกว่ะแก ง่ายๆก็มีความสุขมั๊ง ปกติชีวิตฉันมันจะวนๆซ้ำๆ แต่พอได้เจอพี่เขา มันเหมือนความจำเจมันหายไป เอางี้ แกเคยแอบชอบใครแล้วพอได้ใกล้เขา ชีวิตแกก็ไม่เหมือนเดิมๆเปล่าวะ

ชามมีไอเอนจี: อืม

ManowTangduud : แกเคยเหรอ ใครวะ แกปิ๊งใคร พูดดดด

ชามมีไอเอนจี: ขี้เสือกว่ะ

ManowTangduud : ฉันใส่ใจเพื่อนเหอะ

ชามมีไอเอนจี: คนเดิมๆแหละ

ManowTangduud : น้องมันแกวเหรอ แกยังคิดถึงมันแกวอีกเหรอวะ โคตรรักจริงอะ

ชามมีไอเอนจี: ได้วุ่นวายชีวิตคนอื่นรู้สึกแกจะสดใสขึ้นทันตาเลยนะ

ManowTangduud :  5555 เออ แกควรอกหักบ่อยๆนะไอ้เกลือ เวลาฉันเศร้าฉันจะได้มีเรื่องมาทำให้หายเศร้า

ชามมีไอเอนจี: แกมันสันดานเสีย

(ผมถ่ายรูปตัวเองชูนิ้วกลางไปให้มัน แต่มันส่งไฟล์เสียงกลับมา ผมเลยกดเปิด เป็นเสียงดนตรีสั้นๆประมาณเกือบหนึ่งนาที)

ชามมีไอเอนจี: เพลงที่ฉันหัดแต่ง ยังไม่มีเนื้อร้องเลย

ManowTangduud : เพราะดี แกก็ให้พ่อแกช่วยแต่งเนื้อดิ

ชามมีไอเอนจี: ไม่ ฉันจะแต่งเอง

ManowTangduud : งั้นให้ฉันฟังคนแรกนะแกฉันยอมเสียแก้วหู เห็นไหม ใครเป็นเพื่อนรักแก รู้ยัง 5555

ชามมีไอเอนจี: อืม  แกจะได้ฟังคนแรก อย่าคิดมากนะแก ปากแกเหมาะกับมีรอยยิ้ม....และเอาไว้เก็บหมาก็พอ

ManowTangduud : อีกนิดเดียวฉันจะซึ้งแล้วไอ้ฟายเกลือ

ชามมีไอเอนจี: 555 แกไปนอนเหอะ ดึกแล้ว

ManowTangduud : เค แกก็อย่านอนดึกละ ฉันสงสารอีกา ต้องคอยไปเดินเหยียบหางตาแก 555 ฝันดีเพื่อน

ชามมีไอเอนจี: อืม ฝันดี   

ผมรู้สึกดีขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย การมีเพื่อนดีมันก็ทำให้ความสบายใจเราเบาบางลงได้ เอาจริงๆแล้วในกลุ่มผมก็สนิทกับไอ้เกลือที่สุด ผมพูดกับมันได้ทุกเรื่อง แล้วมันก็เข้าใจผมมากกว่าคนอื่น เวลาผมทำอะไรไม่ถูก มันก็เป็นคนที่กล้าว่าผมแรงๆให้ผมได้คิด แต่ผมก็รู้สึกว่าลักษณะการคุยในวันนี้ไม่เหมือนมันเท่าไหร่ มันอาจจะสงสารผมมั๊ง ผมเปิดไอจีของผมอีกครั้ง พร้อมกับเดินไปที่หน้าต่างห้อง ถ่ายรูปท้องฟ้าที่แม้มันจะไม่ได้มืดสนิท แต่ก็เห็นแสงดาวเป็นจุดๆกระจายเต็มท้องฟ้า จากนั้นผมก็ใส่ข้อความลงไปก่อนจะกดอัพโหลด

Cinderellaman‘ความคิดถึงไม่มีที่ไป’



วันนี้ผมไม่มีงานช่วงเช้าเลยไม่ต้องรีบตื่น แต่ผมก็ไม่ได้ตื่นสายมาก มันเคยชินแล้วครับกับการต้องไปทำงานเช้าๆ ผมดูนาฬิกาที่แขวนที่ผนังห้อง แปดโมงเช้าแล้ว ผมว่าจะตื่นมาอ่านหนังสือสักหน่อย พรุ่งนี้มีสอบตัวสุดท้าย ผมรับงานน้อยกว่าช่วงที่ไม่มีสอบ ซีรีย์เลิฟก็เริ่มเปิดกล้องหลังปีใหม่ จากนั้นก็คงเป็นโปรเจคโฟโต้บุ๊คของพี่ปอน ต่อด้วยละครยาวที่ผมจะรับแค่ปีละเรื่อง ส่วนงานถ่ายแบบถ่ายโฆษณาก็มีมาเรื่อยๆ ที่เยอะหน่อยก็คงจะเป็นพวกงานอีเวนท์ต่างๆ ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ไลน์มีไอ้มีนทักมา แต่ผมยังไม่ได้เปิดอ่านแต่วางโทรศัพท์แล้วเดินไปเข้าห้องน้ำก่อน ทำธุระส่วนตัวเสร็จถึงได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดอ่านไลน์ ไอ้มีนมันส่งลิ้งค์มาให้ ผมเลยกดลิ้งค์นั้น เป็นเวปของหนังสือข่าวบันเทิงเล่นหนึ่ง ผมไล่อ่านก็ต้องตกใจ เพราะนักข่าวเล่นข่าวที่ผมไปกดไลค์รูปมะนาวฝานในไอจีของพี่นภ มีรูปแคปมาประกอบด้วย

เอ๊ะๆ ชักจะยังไงกับดาราหนุ่มชื่อดัง คู่จิ้นของนักร้องหน้าใหม่ ที่ปากแข็งปฏิเสธว่าเป็นแค่เพื่อนเพื่อนตลอดหรือจริงๆแล้วแอบเทใจให้นักร้องคนโปรด โสดทั้งคู่เสียด้วย เห็นทีซ้อสิบแปดต้องล้วงแคะแกะเกาเสียแล้วค่ะคุณผู้อ่านที่รัก

..ไม่จริงหรอก อินักข่าวพวกนี้ชอบใส่สีตีข่าว..

.. พี่นาวเป็นแฟนพี่มีนหรอก ฉันเคยเห็นไปเดินช็อปปิ้งกันสองคน..

..ไม่แน่หรอก หนุ่มหล่อสมัยนี้ชอบกินกันเอง..

..พี่นาวต้องการแฟนนะยะ ไม่ได้ต้องการพ่อ..

..ถึงพี่นภจะอายุเยอะ แต่พี่นภเลือกย่ะ..

..กรี๊ดดด ดีค่ะ หนูจิ้น นภนาว NN..

..ใครจะเมะ ใครจะเคะวะ..

..รักพี่นาว พี่นาวรักใครก็รักด้วย..

..เคยเห็นเดินกับผู้ชายคนหนึ่งบ่อยๆ หรือว่าจะชอบผู้ชายจริงๆ..

..ไม่จริง ไม่ ไม่นะ พี่นาวเป็นของฉันนนนน..

..พี่นภก็ของฉันนนนนนนนนน..

..นั่งเทียนเขียนข่าว มั่ว เลิกอ่านอิเพจนี้กันเถอะ..


ผมอ่านคอมเมนท์ได้หน้าเดียวก็กดปิดหรือที่พี่นภลบไอจีเพราะข่าวนี้ ผมทำพี่เขาเดือดร้อนรึเปล่า ผมคิดไปต่างๆนาๆ จะโทรหาพี่ชัชก็คงเกรงใจ พี่เขากำลังไม่สบาย จะโทรไปขอโทษพี่นภก็ไม่มีเบอร์ ผมตัดสินใจโทรหาไอ้เกลือ

“ว่าไงแก” มันรับสายแล้วครับ

“แกฉันแล้วว่าทำไมพี่นภลบรูปนั้น”

“รูปไรวะ”

“ก็รูปไอจีที่ฉันคุยกับแกเหมือนคืนไง” ผมบอกมัน มันนิ่งอึ้งไปพักหนึ่งถึงได้ตอบกลับมา

“..อ๋อ..เออ ทำไมวะ”

“ก็ฉันไปกดไลค์รูปนั้น นักข่าวก็เล่นข่าวนี้อะดิ”

“แล้ว?”

“พี่เค้าจะเกลียดฉันเปล่าวะ”

“บ้า เรื่องแค่นี้นี่นะ แกต้องใจเย็นๆ อย่าร้อนตามข่าว ปกติแกเจอข่าวแรงๆกว่านี้ แกยังเฉย แต่ถ้าแกร้อนตามไป คนได้รู้แน่ว่าแกชอบพี่เขา”

“เฮ้อ ก็จริง แต่ไม่สบายใจว่ะ อยากขอโทษพี่เขา”

“ฉันถามจริงๆ แกชอบพี่เขาจริงๆเหรอวะ”

“แกจะถามฉันบ่อยๆทำไม เมื่อคืนฉันก็ตอบไปแล้ว”

“อ้าวเหรอ..ก็..ฉันแค่อยากเตือนแก อย่าหวังอะไร ไม่อยากให้แกเจ็บ”

“เออ ขอบใจมาก พรุ่งนี้แกมารับฉันไปสอบได้เปล่า พี่ชัชไม่สบาย ตั้งแต่ฉันขับรถหลับในคราวนั้น คุณเมไม่ให้ฉันแตะรถเลย”

“เออได้ พรุ่งนี้เจอกัน อย่าคิดมาก”

“เค บาย”

“บาย”

ผมพยายามจะไม่คิดอะไรมาก อย่างที่ไอ้เกลือมันบอก ถ้าผมร้อนตัวจะเกินพอดีมันจะยิ่งเป็นข่าว ผมไม่ได้กลัวตัวเองเดือดร้อนเลยจริงๆ ผมกลัวพี่นภเขารู้สึกแย่มากกว่า ปล่อยผ่านไปเดี๋ยวก็คงเงียบไปเหมือนทุกข่าว ผมตัดสินใจหอบหนังสือที่จะอ่านลงไปที่ศาลาหลังบ้าน ท้องก็ร้องประท้วง กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ก่อนจะเดินออกไปเลยแวะห้องครัวก่อน เสียงที่ลอดออกมาจากในครัวทำให้ผมหยุดเดิน ผมมันมีชื่อของผมอยู่ในบทสนทนาด้วย

“ทำไมต้องโกหกแม่ว่านาวอยู่กับลูกเมื่อคืน ทำไมต้องโกหกว่ารอรับน้องกลับมาจากงานด้วยกัน แม่โทรหาคุณชัช คุณชัชบอกว่าน้องนาวไปกับนักร้องคนนั้น”

“ผมอยากให้แม่ให้อิสระน้องบ้าง”

“ธีมคิดว่าแม่ผิดใช่ไหมหรือธีมไม่ห่วงน้องนาว”

“แม่ นาวมันโตแล้วนะ” เสียงของมันดูหงุดหงิด

“ไม่รู้ละ คราวนี้แม่จะถือว่าเป็นการทำผิดครั้งแรกของธีม แต่ถ้าธีมโกหกแม่อีก รู้ใช่ไหมว่าแม่จะทำยังไง”

“..........”

“ธีม”

“ครับแม่”

ผมรู้สึกอึ้งๆกับสิ่งที่ได้ยิน ที่คุณเมไม่ได้เซ้าซี้ถามผมเมื่อคืนเพราะคิดว่าผมกลับมาพร้อมกับมัน ถ้ามันโกหกว่าผมอยู่กับมันตลอด แปลว่ามันต้องรู้ว่าผมจะกลับเข้าบ้านตอนไหนเพราะมันเดินตามหลังผมมาติดๆเหมือนกับว่ามาด้วยกันจริงๆแหละหรือว่ามันรอผมตลอด ไม่น่าเป็นไปได้ คนอย่างมันไม่เคยญาติดีกับผมสักครั้ง เอ๊ะ หรือว่ามันไปหาสาว แต่กลัวคุณเมจะตามตัวให้ไปรับผม เลยโกหกแม่มันแบบนั้น อันนี้ค่อยน่าเป็นไปได้หน่อย แต่ไม่ว่าจะอย่างไหน สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมรู้สึกดีกับมันขึ้นมาห้าเปอร์เซนต์ก็คือประโยคที่มันบอกกับแม่มันว่า มันอยากให้แม่มันให้อิสระกับผมบ้าง แต่เหมือนว่าแม่ของมันจะไม่คิดแบบนั้นสักนิด ผมแกล้งเดินกลับไปตั้งหลักให้ไกลๆห้องครัว ทำเหมือนกับว่าไม่ได้ยินบทสนทนาเมื่อครู่

“มีอะไรกินบ้างครับ” ผมแกล้งตะโกนเสียงดัง ได้ผลครับ คุณเมรีบเดินออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม รอยยิ้มแบบเดิมที่ผมเห็นมาตลอดหลายปี

“ตื่นแล้วเหรอคะน้องนาว แม่ทำต้มจืดปลาหมึกยัดไส้เอาไว้ให้ เพิ่งอุ่นร้อนๆเลย”

“ขอบคุณครับ” ผมบอกก่อนจะเดินเข้าไปในครัว ตั้งใจว่าจะตักไปกินที่ศาลาหลังบ้าน กำลังคิดว่าถ้าเจอหน้ามันจะทำยังไงดี แต่พอเดินเข้าไปก็ไม่เห็นมันแล้ว มันออกไปทางไหนวะนี่

“ไปรอในห้องทานข้าวเลยลูก เดี๋ยวแม่ให้เด็กยกไปให้”

“นาวจะไปกินที่ศาลาหลังบ้าน จะอ่านหนังสือเตรียมสอบพรุ่งนี้ด้วยครับ” ผมตอบ คุณเมทำหน้าประหลาดใจก่อนจะระบายยิ้มเหมือนเดิม แหม คนเรามันต้องมีขยันกันบ้าง

“ได้ค่ะ น้องนาวไปรอเลย เดี๋ยวแม่ให้เด็กยกไปให้ แม่ทำลูกตาลลอยแก้วเอาไว้ด้วย เดี๋ยวยกไปพร้อมกันเลยนะคะ”

“ขอบคุณครับ”

ผมกล่าวขอบคุณอีกครั้งก่อนจะเดินออกทางประตูด้านหลังของครัว เพราะมันสามารถเดินไปที่สวนหลังบ้านได้เลย คุณเมสร้างน้ำตกจำลองขนาดใหญ่เอาไว้ในพื้นที่สวนหลังบ้านนี้ด้วย ในบ่อก็เลี้ยงปลาเอาไว้หลายตัว แต่ผมไม่รู้ว่าเป็นปลาอะไรบ้าง ไม่เคยมานั่งมองจริงๆจังๆสักที สวนถูกจัดสวยงาม มีทั้งไม้ใหญ่ให้ความร่มรื่นและไม้ดอกส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วบริเวณ ความเย็นของสายลมที่พัดผ่านละอองน้ำตกจำลองส่งให้บรรยากาศตรงนี้เย็นสบาย ผมถึงเลือกที่จะมานั่งอ่านหนังสือสอบตรงนี้ แต่พอเดินไปถึงศาลาไม้ที่ตั้งอยู่ตรงกลางบ่อน้ำตกจำลอง ก็เห็นไอ้โหดมันนั่งจับจองพื้นที่อยู่ก่อนแล้ว มีหนังสืออะไรไม่รู้กองเต็มโต๊ะ ตัวมันกำลังก้มหน้าเล่นกีต้าร์อยู่ ผมเลยชะงักอยู่กับที่ สงสัยต้องขึ้นไปอ่านบนห้อง

“พี่ธีมคะ น้องนาวจะอ่านหนังสือสอบ พี่ธีมย้ายไปเล่นในบ้านดีไหมคะ” เสียงคุณเมดังมาจากด้านหลังของผม มันเงยหน้าขึ้นมามองแป๊ปหนึ่ง ก่อนจะโกยหนังสือของมันรวมๆไว้

“ไม่เป็นไรครับ คือ นาวไปอ่านข้างบนดีกว่า” ผมบอก

“ไม่เป็นไร จะเข้าไปกินข้าวอยู่แล้ว” มันตอบ อ้าว แล้วเมื่อกี้แสดงว่ามันยังไม่ได้กินข้าว

“งั้นก็กินด้วยกัน คุณเมให้เด็กจัดให้พี่ธีมอีกชุดได้ไหมครับ นาวจะได้มีเพื่อนกิน” ผมหันไปถามแม่เลี้ยงของผม คุณเมทำหน้าประหลาดใจอีกครั้ง ก่อนจะระบายยิ้มเหมือนเดิมเป๊ะ เหมือนภาพรีเพลย์ซ้ำๆเชียว

“ได้ค่ะ งั้นพี่ธีมกินข้าวเป็นเพื่อนน้องนาวก่อนนะคะ” คุณเมสั่งมันก่อนจะเดินกลับเข้าไปในครัว อย่าคิดว่าผมพิศวาสมันเชียว แค่สงสารมันขึ้นมาเล็กน้อยที่โดนให้เสียสละให้ผมตลอด จริงๆห้องใต้หลังคาก็เป็นห้องมันด้วยล่ะครับ

“กินกับพี่จะกินลงเหรอ” มันถามผม

“ก็อาจจะระคายคอบ้างนิดหน่อย” ผมยักไหล่ตอบ

“แต่พี่จะกินลงหรือเปล่า”  มันพูดขึ้นมาลอยๆ อ๊าวววว ไอ้นี่ คนอุตส่าห์พักรบชั่วคราว จะเปิดสงครามใช่ไหม

“ถ้าความหล่อของนาวจะทำให้พี่อิ่มจนกินอะไรไม่ลงก็ขอโทษด้วยแล้วกัน นาวขี้เหล่ไม่เป็น” ผมตอบ

“หึหึ” มันหัวเราะแต่ไม่ต่อกรกับผมอีก คิดมุขแก้ไม่ทันฉันละซี๊ ฮ่าๆ เรื่องมุขหลงตัวเองให้บอก ผมถนัด

มันวางกีต้าร์ลงพิงกับระเบียงศาลา เก็บหนังสือเพลงของมันไปเรียงซ้อนไว้จนโต๊ะไม่รกเหมือนตอนแรก ผมวางหนังสือของผมลงบ้าง ก่อนจะนั่งลงอีกฝั่ง เด็กรับใช้ยกสำรับกับข้าวมาตั้งให้แล้ว ต้มจืดปลาหมึกยัดไส้หมูบ๊ะช่อของโปรดผมส่งกลิ่นหอมจนต้องเผลอกลืนน้ำลาย มีจานผัดผักรวมมิตรใส่พริกขี้หนูมาด้วย ผมกับมันนั่งกินกันเงียบๆจนอิ่มข้าว ผมกินลูกตาลลอยแก้วต่อ แต่มันไม่กิน ผมอิ่มจนท้องตึง เด็กเดินมาเอาจานไปเก็บพร้อมกับทำความสะอาดโต๊ะจนสะอาดเอี่ยม ไอ้โหดมันทำท่าจะลุกไป ผมเลยเรียกไว้ก่อน

“เดี๋ยว...”

“..........”

“เมื่อวานนี้..”ผมตั้งใจจะถามมัน ถ้ามันช่วยโกหกเพื่อผม ผมก็จะขอบคุณมัน

“พี่ไปกินข้าวกับเพื่อนมา เลยโกหกแม่ว่าไปรอรับนาว” มันตอบทั้งที่ผมยังไม่ทันถาม นั่นไง ผมเดาผิดที่ไหน อย่างมันรึจะมาช่วยผม

“ก็คิดงั้นแหละ”

“แม่โกรธมาก คราวนี้พี่เลยต้องไปรับส่งนาวทุกครั้ง แถมยังต้องถ่ายรูปมาให้แม่ดูด้วยว่าอยู่กับนาว”

“เฮ้ย ไม่เอาอะ พี่ชัชรับส่งฉันเหอะ ไม่ต้องเลย”

“พี่ชัชอายุเยอะแล้ว แม่ให้พี่ชัชเขาดูแลแค่คิวงานกับงานเอกสารของนาวก็เยอะแล้ว”

“เดี๋ยวนาวจะไปคุยกับคุณเมเอง” ผมหงุดหงิดทันที

“ไม่ต้อง นาวอย่าเยอะ ไม่สงสารพี่ชัชรึไง ต้องมานั่งรอนาวทั้งวัน บางวันเขาก็ไม่ได้อยู่กับครอบครัวเลย” มันยิ่งพูด ผมยิ่งหงุดหงิด กลายเป็นว่าผมไปไหนต้องหนีบมันไปด้วยใช่ไหม วุ้ย เอาความรู้สึกดีห้าเปอร์เซนต์ของผมคืนมาเลย

“นาวจ้างคนขับรถก็ได้”

“ดี พี่จะคิดราคาถูกๆ กำลังอยากได้กีต้าร์ใหม่พอดี” เฮ้ย มันหน้าด้านไปเปล่าวะ 

“นาวพูดสักคำยังว่าจะจ้างพี่”ผมกับมันต่อปากต่อคำกันแบบไม่มีช่องว่าง ต้องใช้ความสามารถล้วนๆในการโต้ตอบกับมัน

“แล้วพี่ได้พูดไหมว่านาวเลือกได้”

“แล้วนาวได้บอกไหมว่านาวไม่อยากไปไหนมาไหนกับพี่”   

“งั้นพี่จะบอกไว้ เลือก..ระหว่างแม่กับพี่ จะไปกับใคร”

“งั้นนาวก็จะบอกว่า... เลือกพี่ก็ได้ แม่มมมม โว้ยยยยย” ผมเตะโต๊ะเตะเก้าอี้ระบายอารมณ์ ผมต้องตอบแบบนั้นเพราะปากไปไวกว่าสมองครับ

“หึหึ”

“แล้วนาวก็จะบอกว่า ถ้านาวต้องเสียเงินจ้างพี่ พี่ต้องรับใช้นาวทุกอย่างด้วย”ผมยังไม่ยอมแพ้

“เอาที่นาวสบายใจ”

“หึ นาวสบายใจแน่” ผมพูดจบก็จ้องหน้ามัน มันก็จ้องตอบแบบไม่มีใครยอมใคร

“จะให้พี่ไปได้ยัง”

“ยัง พี่ต้องอยู่คอยรับใช้นาวก่อน” ไงล่า ไงล่า อยากเป็นขี้ข้าฉันก็จัดให้

“ต้องนั่งตักพี่แล้วให้พี่อ่านหนังสือให้นาวฟังด้วยไหม”

“กล้าๆหน่อยไหม” ผมท้าทาย

“ดูดนิ้วนาวพี่ยังกล้าเลย”

กริบ......เงียบ....กริบ......เด๊ดแอร์ แด่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้นนนนน ผมเถียงต่อไม่ออก

“หึหึ” มันหัวเราะเยาะผม

“นาวไม่มีสมาธิ จะไปอ่านข้างบนห้อง ขอให้ปลวกแทะศาลาจนพรุนแล้วศาลาหักลงมาทับพี่ตาย!!”
ผมพูดจบก็คว้าหนังสือของตัวเองวิ่งขึ้นห้องไปเลย ได้ยินเสียงมันหัวเราะไล่หลังมา คนกำลังโมโหเว้ย ยังคิดไม่ออก ให้คิดออกก่อนเถ๊อะ มันโดนเอาคืนสาสมแน่ วิ่งขึ้นมาถึงห้องก็กระโดดขึ้นเตียง ทุบหมอนด้วยความเจ็บใจ อุตส่าห์ลืมๆไปแล้วเชียว ผมถอนหายใจก่อนจะยกนิ้วที่โดนมันดูดขึ้นมาดู พร้อมกับได้ยินภาพและเสียงในสมองลอยมาเป็นระยะ

(ภาพมันดูดนิ้วผมจนไม่เหลือเศษขนมมันลอยมา)....คิดซะว่ามันเป็นหมามาเลียเศษอาหารก็ได้วะ..

..หึหึ..(เสียงมันลอยมา)..... แต่หมามันหัวเราะ หึหึ ไม่ได้นี่.. โว้ยย เจ็บใจ

(ภาพปากอิ่มๆของมัน น้ำลายของมันที่ติดนิ้วลอยมา)...งั้นคิดว่ามันคือเมือกปลา ลื่นๆสกปรก น่ารังเกียจก็ได้วะ
ดูดิ๊ ไอ้เมือกปลาซาตาน มันทำให้ผมโมโหจนใจเต้นตึกตักตึกตักเลย แบบนี้สินะ ที่เขาเรียกว่าโกรธจนใจสั่นใช่เปล่าครับ ฮึ่ยย!!


โปรดติดตามตอนต่อไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-03-2017 21:10:11 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
น้องนาวเขิลลลลลล สิน้าาาาาาา ซึนได้อีกอะ  :o8:พีธีมคะ น้องมันเล่นตัวมากอะ จับกดเลยค่ะ  :hao6: :hao7:

ออฟไลน์ lonesomeness

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
แอะๆ พี่ธีมมม ชอบน้องนาวก็บอกมาาา

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
บทที่ 6 
 


สรุปว่าเมื่อวานผมขลุกตัวอยู่แต่ในห้องนอนทั้งวันจนอาหารเย็น อาหารกลางวันป้าสายหยุดก็ยกขึ้นมาให้ จริงๆแล้วผมต้องไปซ้อมเดินแบบให้กับคุณเมในตอนเย็น แต่คุณเมยกเลิกการซ้อมทั้งหมดเพราะอยากให้ผมได้อยู่อ่านหนังสือ ทั้งๆที่ผมบอกคุณเมว่าเกรงใจทีมงานคนอื่นแล้วผมก็อ่านหนังสือมาทั้งวันแล้ว แต่คุณเมก็ยังยืนยันว่าเรื่องเรียนของผมสำคัญกว่า ผมก็เลยไม่ต้องไป มื้อเย็นเลยมีผมนั่งกินข้าวคนเดียวครับ ไม่รู้หายไปไหนกันหมด มีแต่ป้าสายหยุดที่คอยดูแลเรื่องอาหารเย็นให้ผม เรียกว่าอาหารเย็นแต่เอาเข้าจริงตอนนี้ก็ปาไปทุ่มกว่าแล้ว

“คุณเมเธอไปงานแต่งค่ะ คุณธารขึ้นไปเที่ยวเชียงใหม่กับเพื่อน ส่วนคุณธีมบอกว่าออกไปธุระกับเพื่อนแต่เดี๋ยวจะกลับมาทานข้าวเย็นที่บ้าน น้องนาวจะรอคุณธีมไหมคะ” ป้าสายหยุดถามผม

“ไม่รอครับ นาวหิวแล้ว” ผมตอบ เมื่อก่อนป้าสายหยุดก็เรียกผมว่าคุณนาว แต่ผมไม่ให้เรียก ป้าแกเลยเรียกน้องนาวตั้งแต่นั้นมา ผมสนิทกับป้าแกพอสมควร ตอนที่ถูกพ่อทำโทษ ผมจะประท้วงโดยการไม่กินข้าวเย็น แต่พอตกดึกหิวสิครับ ก็ได้ป้าสายหยุดนี่แหละที่แอบทำกับข้าวแบ่งเอาไว้ให้เสมอ

“ทานเยอะๆเลยนะคะ” ป้าสายหยุดตักข้าวให้ผม วันนี้ผมคงเจริญอาหารแน่ๆแหละป้า ไม่ต้องอึดอัดรวมโต๊ะพร้อมหน้าเหมือนทุกที

“คุณธีมเธอออกไปกับคุณอ้น ป้าไม่เจอคุณอ้นมานานแล้ว เพิ่งเจอวันนี้เอง เห็นว่าเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ” ป้าสายหยุดเล่าให้ผมฟัง เหมือนได้กินข้าวไปดูรายการก็อซซิบบันเทิงไปด้วย ฮ่าๆ ว่าแต่มันออกไปกับพี่อ้นหลังจากที่ไม่ได้เจอกันนานแบบนี้ ธุระของมันคงไม่ใช่.. คึคึ แต่ถึงใช่ก็ไม่ใช่เรื่องของผมอยู่ดีเนอะ

“ป้าครับ ผมมีคำถาม”

“อยากถามอะไรป้าคะน้องนาว”

“ทำไมป้าถึงชื่อสายหยุดอะครับ”

“อ๋อ คุณแม่ของป้าชอบดอกสายหยุดค่ะ”

“อ๋อ.....”

“บอกป้ามาเชียวว่าคิดอะไรในใจ” ป้าสายหยุดรู้ใจผมจริงๆ สงสัยจะคิดดังไป

“คึคึคึ ผมนึกว่าหมายความว่า ไหนๆก็มาสายแล้ว หยุดซะเลยดีกว่า” ผมแซวป้าสายหยุด

“ฮ่าๆๆ ล้อป้าเล่นเรื่อยเลย น่าหยิกนักเชียว” ผมไม่ได้ล้อเล่นนะป้า คิดแบบนั้นจริงๆ แหะๆ

“แล้วดอกสายหยุดเป็นยังไงเหรอครับ”

“มันก็คล้ายๆดอกกระดังงาค่ะ ตอนเช้ามันจะส่งกลิ่นหอมจัดพอสายหน่อยกลิ่นมันจะจางลงและหมดกลิ่นในตอนเที่ยงวัน”

“อ๋อ แบบนี้เอง แต่ป้าสายหยุดของนาวหอมทั้งวันเลยครับ ยิ่งกับข้าวฝีมือป้ายิ่งห๊อมหอม” ผมได้ทีโกยคะแนนความรักจากป้าสายหยุด ป้าสายหยุดรักไอ้พี่ธีม ผมดูออก ผมเลยต้องโกยคะแนนมาจากเยอะระหว่างที่ไอ้พี่ธีมมันไม่อยู่

“ปากหวานจริงพ่อคุณ” ป้าสายหยุดหัวเราะชอบอกชอบใจยกใหญ่ ผมคิดถึงแม่จัง ถ้าแม่ผมยังอยู่ผมคงอ้อนแม่ได้ทั้งวัน แม่ก็คงจะหัวเราะแบบป้าสายหยุด ตอนพ่อยังอยู่พ่อจะเล่าเรื่องแม่ให้ฟังบ่อยๆ มันเป็นความสุขอย่างหนึ่งของผม ตอนนี้พ่อก็ไม่อยู่แล้ว อยากฟังเรื่องแม่อีกก็ไม่ได้แล้ว

“พ่อเคยเล่าให้นาวฟังว่า พรรำไพ คือชื่อในการประกวดนางงามของแม่ แต่ชื่อจริงของแม่นาวชื่อพุดซ้อน ดอกพุดซ้อนหอมไหมครับป้า”

“หอมค่ะ หอมมาก กลิ่นหอมหวานๆ” ป้าสายหยุดอธิบาย ผมนึกถึงภาพแม่ไปด้วยก็อดระบายยิ้มกว้างออกมาไม่ได้

“ผมคิดถึงแม่จังครับ” ผมบอก ก่อนจะก้มหน้าทานข้าวต่อ ป้าสายหยุดเองก็เงียบไปด้วย ผมไม่ได้เศร้าหรอกครับ ความคิดถึงสำหรับผมมันคือการคิดถึงจริงๆ

“จริงๆที่บ้านเรามีต้นพุดซ้อนนะคะ”

“จริงเหรอครับ ผมไม่รู้มาก่อนเลย ดีเลย ผมอยากเห็นดอกพุดซ้อน”

“ดึกแล้ว เอาไว้พรุ่งนี้ป้าจะพาไปดูนะคะ

“ครับ”

“อ้าว คุณธีมกลับมาพอดี จะทานข้าวเลยไหมคะ” ผมหันหลังไปมองคนที่ป้าสายหยุดทักขึ้น มันมายืนอยู่ข้างหลังผม

“ผมอิ่มแล้วครับป้า ขอโทษที พอดีเพื่อนชวนกิน”รูปประโยคของแกชวนคิดไปได้ไกลจริงๆ เพื่อนชวนกิน ชวนเพื่อนกิน ชวนกินเพื่อน

“อ๋อค่ะ”

“แต่ผมขอกาแฟสักแก้วได้ไหมครับ” มันบอกป้าสายหยุดก่อนจะเดินมานั่งตรงกันข้ามกับผม

“ได้ค่ะ รอสักครู่นะคะ เดี๋ยวป้าไปชงมาให้ น้องนาวจะรับกล้วยบวชชีเลยไหมคะ”

“ครับป้า” ผมตอบป้าสายหยุดก่อนจะแอบจับผิดมัน

“เพื่อนชวนกินจนอิ่มเลยเหรอ” ผมถามด้วยน้ำเสียงที่ธรรมดาแต่หน้าตามีเลศนัยสุดๆ ฮ่าๆๆ

“..................” มันไม่ตอบครับ แต่นั่งจ้องหน้าผมซะงั้น จนป้าสายหยุดเอากาแฟกับกล้วยบวชชีมาให้ผมกับไอ้พี่ธีมขาโหด ผมกับมันก็นั่งกินกันไปเงียบๆ

“พรุ่งนี้สอบเก้าโมง จะตื่นเองหรือให้ปลุก” มันถามขึ้นทำลายความเงียบ

“ไอ้เกลือจะมารับ” ผมบอก

“พี่จะไปส่ง” มันกินยาผิดเปล่าวะ ไม่กระโชกโฮกฮากเลยเว้ยวันนี้ ทำเสียงนุ่มๆอีกต่างหาก

“นัดเกลือมันแล้ว” ผมบอกมัน มันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเดาว่าโทรหาไอ้เกลือแน่ๆ

“ฮัลโหล เกลือ พรุ่งนี้พี่จะไปส่งนาวเองนะ ครับ ขอบคุณครับ” นั่นไง เดาผิดที่ไหน มันพูดกับเพื่อนของผมเสร็จก็หันยักคิ้วให้ผม ผมเบ้ปากใส่มันก่อนจะวางช้อนลง รู้สึกอิ่มขึ้นมาทันที

“ทำไมชอบบังคับวะ” ผมถาม มันอึ้งไปนิดหน่อย

“แล้วทำไมนาวต้องคอยปฏิเสธ ทั้งที่ก็รู้ว่ามันไม่มีประโยชน์ บ้านเกลือมันอยู่ใกล้มหา’ลัยนิดเดียว ให้มันย้อนมารับทำไม ความหวังดีที่คนอื่นหยิบยื่นให้มันไม่ใช่เรื่องหนักหนาสาหัสที่ต้องลำบากใจขนาดนั้น ทำไมไม่ทำให้มันง่ายๆ”คราวนี้มันร่ายยาวเลยครับ ปกติมันเป็นคนไม่ชอบอธิบายอะไรเยอะ เฮ้อ ก็จริงของมันแหละ บ้านไอ้เกลือมันอยู่ใกล้มอ ถ้ามารับผมต้องเสียเวลามันอีก แต่ถ้าคุณลองมาเจอแบบผม ที่ต้องทำทุกอย่างตามที่คนอื่นขีดไว้ซ้ำๆมาตั้งแต่เด็กๆ ถึงบางครั้งจะโต้แย้งได้ แต่ไม่ทำตามไม่ได้ สุดท้ายมันก็เหมือนการบังคับอยู่ดี เป็นแบบนี้มาหลายปี ถึงมันไม่ใช่เรื่องสาหัส แต่มันน่าหงุดหงิดนี่ครับ

“พรุ่งนี้จะตื่นเอง” ผมตอบ มันยกยิ้มมุมปาก ยิ้มของมันก็ธรรมดาแต่แววตากวนประสาทสุดๆครับ

“อีกอย่าง...”มันพูดค้างไว้

“..........”ผมก็รอฟังว่ามันจะบ่นอะไรอีก

“คือ..พี่กับอ้น..”

“นาวจำเป็นต้องรู้ไหม?” ผมถามแทรกขึ้นมาเลย มันจะคบกันก็เอาที่สบายใจเลย ไม่ต้องรายงานผมหรอกครับ ไม่ได้อยากรู้ แอบสังเกตว่าทันทีที่ผมสวนไป หน้ามันเจื่อนๆครับก่อนจะปรับสีหน้าให้เรียบเฉยเหมือนเดิม

“รีบไปนอนไป เดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นสายจะดีดให้สมองหายเลย” มันบอกแค่นี้ครับ ไม่ได้พูดสิ่งที่มันอยากจะพูด
ผมยักไหล่ใส่มันก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินขึ้นห้องไป ทำเป็นไม่อยากรู้ เอาจริงๆคิดว่าฉันพลาดละ เพราะความอยากรู้มันไต่ระดับสูงปรี๊ดเลยตอนนี้  แต่แอบเซ็งนิดหน่อย ถ้ามันคบกับพี่อ้นจริงๆ มันเลิกกลัวเกย์ ผมก็ไม่มีไม้ตายมากัดมันนะสิครับ
ขึ้นมาถึงห้องผมก็เดินไปนั่งที่โซฟาติดริมหน้าต่าง วันนี้ทั้งวันไม่ได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเลย ตั้งใจอ่านหนังสือจริงๆ สอบตัวนี้เสร็จก็โล่งแล้ว อีกแค่เทอมเดียวผมก็จบแล้วครับ ส่วนไลน์กรุ๊ปเงียบสนิท แน่ละครับ พรุ่งนี้มีสอบ เห็นพวกมันทำงานกันนัก แต่ถ้าเรื่องเรียนมันก็จริงจังกันน่าดู ผมวางโทรศัพท์แล้วหยิบไอแพดขึ้นมาเสิร์ชดูดอกพุดซ้อน ดอกสีขาวดูสง่างามบริสุทธิ์ ไม่รู้ว่ากลิ่นหอมๆที่ได้กลิ่นตอนที่ไปนั่งอ่านหนังสือจะใช่กลิ่นดอกพุดซ้อนรึเปล่า 

ก็อกๆๆ ผมได้ยินเสียงเคาะประตูเลยวางไอแพดลงแล้วเดินไปเปิดประตู เจอไอ้โหดมันยืนอยู่

“นี่สรุปแนวข้อสอบ ลองอ่านดู พอดีเพิ่งหาเจอ แล้วนี่ป้าสายหยุดฝากมาให้” มันยื่นของในมือมันมาให้ผม ผมยกมือไหว้มันก่อนจะรับมา ดอกพุดซ้อนเหมือนที่เห็นในอินเตอร์เน็ตเมื่อกี้เลยครับ ผมรีบยกขึ้นมาดม กลิ่นหอมมากครับ หอมหวานๆเหมือนที่ป้าสายหยุดบอกจริงๆ

“หอมจัง” ผมยิ้มดีใจ ป้าสายหยุดอุตส่าห์ไปเก็บมาให้ผมทั้งๆที่มืดขนาดนี้

“อืม หอม” มันบอก ก่อนจะหันหลังกลับ ผมเห็นหน้ามันแดงๆ คงแอบไปเมามาแหงเลย เมาเหล้าหรือเมาพี่อ้นฟร่ะ หึหึ

“นี่” ผมเรียก มันหันมามอง

“ถ้าขี้เกียจอาบน้ำก็เอาดอกพุดซ้อนเหน็บตามตัวไว้ดิ แต่คงต้องเด็ดสักสี่ต้นนะ” ฮ่าๆ เอาวะ ถ้าเล่นมุขเรื่องมันกลัวเกย์ไม่ได้แล้ว เอาเรื่องมันซกมกมากัดก็ได้เว้ย

“ถ้าพี่เหน็บทั้งตัวจริง นาวจะมาดมไหมละ” มันถาม ชิหัยละ ทำไมพักนี้มันต่อปากต่อคำเก่งนักวะ

“ไม่ เพราะยกพุดซ้อนมาทั้งสวนมาเหน็บพี่ก็เหม็นอยู่ดีว่ะ ฮ่าๆๆๆ” ผมยืนขำมันจนไม่ทันสังเกตว่ามันเดินมาจนชิดตัวผมเลย ย๊าก จะทำร้ายร่างกายผมไม่ได้นะ ค่าตัวผมแพงนะเว้ย ผมมองมันด้วยความหวาดระแวงว่ามันจะมาไม้ไหน

“พี่กับอ้นไม่มีอะไรกันอย่างที่นาวคิด” มันบอกจบก็เดินกลับห้องมันไปเลย

อะไรของมันวะ...ผมคิดอะไรเหรอ เปล๊า ไม่ได้คิดอะไรสักนิด แล้วจะบอกผมทำไม ผมไม่ได้อยากรู้สักหน่อย เออๆ ยอมรับก็ได้ว่าอยากรู้ แต่ทำไมต้องมาบอกก่อนที่ผมถาม กลัวผมจะล้อเรื่องพี่อ้นละสิท่า หึหึ ร้อนตัวแน่ๆ สีหน้าจริงจังแบบนั้นต้องร้อนตัวแน่ๆ เอาล่ะ เห็นแก่ความดีที่เอาแนวข้อสอบมาให้ ผมจะละเว้นไม่ล้อมันเรื่องพี่อ้นสองวันละกัน เห็นรึยัง ใครปราณีมันได้เท่าผมไม่มี หึหึ

ผมเดินกลับมานั่งที่โซฟาตัวเดิม หยิบดอกพุดซ้อนมาดมอีกครั้งแล้ววางมันที่ริมหน้าต่าง หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายดอกพุดซ้อนด้วยความตั้งใจสุดๆ จากนั้นก็จัดการเอารูปลงไอจี อัพโหลดสำเร็จปุ๊ป ไม่นานก็มีแฟนๆเริ่มเข้ามากดไลค์พร้อมกับคอมเมนท์กัน ผมอ่านทุกข้อความนะ ฝากร้านก็ยังอ่าน ผมไม่ได้ห้าม ฝากได้ทุกวันไม่เหนื่อยกันก็จัดไป
แต่!!...ที่ทำให้ต้องรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูใกล้ๆ ก็ ก็ พี่นภครับ!! พี่นภมาคอมเมนท์ด้วย

NopTheSound พุดซ้อนหอมดีนะ

วี๊ดดดดดบู้มมมม แทบจะลุกขึ้นเต้นวาดมือแอ่นตัวหลังหงายแบบเชียร์ลีดเดอร์เลยครับ อยากจะเมนท์ตอบจริงจริ๊งว่าผมหอมกว่าพุดซ่อนอีกนะ แต่ต้องเป็นกุลบุรุษ เก็บอาการไว้ ฮ่าๆ ผมรีบแคปรูปเก็บเอาไว้ก่อน เดี๋ยวเกิดพี่เค้ามาลบอีก เก็บไว้ดูให้ชื่นหัวใจ ตอนนี้เหมือนคนบ้า นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับโทรศัพท์ อยากจะเอาไปอวดไปพวกฝูงไฮยีน่าจริงๆ แต่ไม่เอาดีกว่า เดี๋ยวมันว่าผมแรด ฮ่าๆ ผมนั่งอ่านคอมเมนท์ไปเรื่อยๆ บางคนเข้ามาแซวด้วย ผมชักจะเริ่มกังวลเบาๆ จะทำพี่เค้าดูไม่ดีรึเปล่า แต่ต้องนิ่งอย่างไอ้เกลือมันบอกครับ กำลังตัดสินใจว่าจะตอบกลับให้ดูเหมือนพี่น้องในวงการคุยกันธรรมดาดีรึเปล่า แต่มาสะดุดที่ชื่อของคอมเมนท์หนึ่ง

@Princeslippersพุดซ้อนซ่อนนัยอะไรน้อ ขาวลออให้หวนชวนฝันใฝ่ ซ้อนลงแอบแนบทรวงในดวงใจ กลิ่นอบอวลชวนให้เฝ้าคะนึง 

ผมสะดุดชื่อกับข้อความคอมเมนท์ที่เขามาลงในไอจีของผม ผมเลยแอบตามกดดูโพรไฟล์ว่าเขาเป็นใคร รูปดิสเพลย์เป็นรูปรองเท้าแตะเก่าๆครับ อ่านตรงข้อความบรรยาถึงตัวตนของคนๆนี้ก็ยิ่งแปลกใจ

‘ถ้าคุณเป็น Cinderella ผมนี่แหละ เจ้าชายของคุณ’

ผมชักจะสงสัย เพราะชื่อไอจีของผมคือ Cinderellaman ผมดูคนเขาที่ติดตาม ปรากฏว่ามีเพียงคนเดียว นั่นก็คือ ผม!! หรือจะเป็นพวกคลั่งดาราวะ แต่ผมก็ไม่เคยเจอเลยนะแบบแฟนคลับโรคจิตที่เข้ามาถึงตัวจนดูน่ากลัว ส่วนใหญ่ก็น่ารักเป็นมิตรทั้งนั้น ไม่ก็พวกที่เกลียดผมออกนอกหน้าไปเลย ผมดูรูปที่เขาลง ยิ่งน่าแปลกใจหนักเข้าไปอีก ส่วนใหญ่จะเป็นรูปสิ่งที่ผมชอบแทบทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นของกิน วิวประเทศที่อยากไป เสื้อผ้า รองเท้าที่ผมชอบ มันไม่ธรรมดาแล้วแน่ๆ ผมตัดสินใจกดติดตามคนๆนี้ รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง ใครสักคนได้กล่าวไว้นี่แหละ อาจจะเป็นคนรู้จักมาแกล้งผมก็ได้ เรื่องนี้ต้องขยาย เอาไว้ให้พวกเพื่อนๆช่วยกันสืบ ผมวางโทรศัพท์ลง กำลังคิดว่าว่าผมลืมอะไรไปรึเปล่านะ แต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกเลยคิดว่าไปอาบน้ำดีกว่า จะได้มานอนอ่านแนวข้อสอบต่ออีกสักหน่อยจะได้รีบนอน พรุ่งนี้จะตื่นสายไม่ได้ เดี๋ยวจะโดนไอ้โหดมันดีดเหม่งผมอีก



การสอบผ่านไปด้วยดีครับ ต้องบอกว่าดีมากกกก ไม่น่าเชื่อว่าแนวข้อสอบที่ไอ้ธีมมันเอามาให้ผมอ่านจะช่วยผมได้มาก รู้สึกทำข้อสอบได้อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ส่วนไอ้พวกเพื่อนผมก็มีบ่นบ้าง สอบเสร็จต่างคนก็ต้องแยกย้ายกันไป ไม่ได้อยู่กินข้าวด้วยกันเพราะมีงานกันต่อกันแทบทุกคน ยีนมันมีละครต้องอยู่ในกองถ่ายแทบทุกวัน มันมาซ้อมเดินแบบให้คุณเมได้แค่วันเสาร์อาทิตย์ ไอ้บูมก็ต้องไปซ้อมครับ นักกีฬาอย่างมันต้องซ้อมตลอดอยู่แล้ว ไอ้เกลือกับไอ้จอมมีสอบตอนบ่ายอีกตัว มันลงเพิ่มวิชาเกี่ยวกับการถ่ายภาพ ก็เหลือ ผม มีน ไอ้บิว สามคนที่ว่าง เลยตกลงว่าจะไปบ้านไอ้บิวกัน มันจะทำของอร่อยๆให้กิน ผมโทรบอกไอ้โหดว่าจะไปบ้านบิว มันบอกให้รอครึ่งชั่วโมงจะมารับ เมื่อเช้ามันก็มาส่ง ก่อนลงจากรถมันถ่ายรูปผมเอาไว้คอยรายงานแม่มัน ดูเอาเถอะครับ นี่ถ้าผมปวดขี้มันจะตามไปถ่ายด้วยไหม

“นาว ให้พี่ธีมเขาแวะห้างให้ก่อนได้ไหม จะซื้อของสด” บิวมันถามผม ผมว่าพักนี้หน้าตามันดูเศร้าๆยังไงไม่รู้

“ได้สิ ฉันสั่งอะไรคนรับใช้ฉันก็ต้องทำตาม” ผมตอบ ก็มันอยากคิดค่าจ้างผม ผมต้องใช้ให้คุ้ม

“สรุปพี่เขาต้องมาเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้แกแทนพี่ชัชเลยเหรอนาว” ไอ้มีนถามบ้าง

“อืม พี่ชัชอายุมากแล้ว คุณเมให้ทำเรื่องงานเอกสาร พวกสัญญางาน ค่าตัว ภาษีอะไรพวกนี้แทน”

“ก็ดีนะ งานแกเยอะ ต้องให้พี่ธีมมาดูแลแทนพี่ชัชก็ดีแล้ว” ไอ้มีนมันว่างี้ครับ

“ดีตรงไหน อย่างกับเป็นนักโทษ” ผมบ่น

“ก็ดีตรง ฉันจะได้เจอพี่ธีมบ่อยๆไง อิอิอิ” มันเริ่มเพ้อเจ้ออีกแล้วครับ

“พี่เขาดูใส่ใจแกออก” ไอ้บิวออกความเห็นบ้างครับ

“แกเรียกใส่ใจ ฉันเรียกว่า จับผิด” ผมว่ามันจับผิดผมทุกเม็ดครับ

“เออ  เมื่อวานใครกันน้าไปคอมเมนท์ดอกพุดซ้อนของแกไอ้นาว” ไอ้มีนทำหน้าตาล้อเลียน

“เฮ้ยยย นึกออกแล้วว่าลืมอะไร” ผมตะโกนขึ้นมาจนไอ้สองคนนั่นตกใจ

“อะไรของแก ตกใจหมด แล้วลืมอะไร” ไอ้มีนถาม

“ฉันว่าจะตอบเมนท์พี่นภเขา มัวแต่ไปเป็นโคนาวสืบเรื่องคนๆหนึ่งอยู่ ลืมเลย เซ็ง” ผมเพิ่งนึกขึ้นได้จริงๆ รีบหยิบไอโฟนขึ้นมาเปิดไอจีดู คอมเมนท์พี่นภยังอยู่ ไม่ได้ลบเหมือนภาพมะนาว

“แกเป็นแฟนพี่นภเขาแล้วเหรอ” ไอ้บิวถาม

“บ้าดิ ยังเว้ย แต่อนาคตไม่แน่ คึคึ”

“พี่ธีมมาแล้ว” มีนชี้ไปที่ไอ้โหด พวกมันยกมือไหว้ไอ้โหด มันก็รับไหว้

“เดี๋ยวไปห้างXXก่อนนะ บิวมันจะไปซื้อของสด ถ้าพี่มีธุระไปส่งก็พอ เดี๋ยวนาวไปต่อกับเพื่อนเอง”ต่อหน้าเพื่อนก็ให้เกียรติมันนิดหนึ่งครับ ใช้น้ำเสียงดีๆพูดกับมัน

“ว่าง” มันตอบสั้นๆ ผมเลยไม่พูดอะไรต่อ ได้แต่ย้ายร่างไปรวมกันในรถของมัน มันขับพามาถึงห้าง แล้วให้พวกผมเข้าไปกันก่อน เพราะมันจะดูดบุหรี่ อยู่บ้านมันไม่ดูดหรอกครับ คงกลัวคุณเม ผมกับไอ้มีนเดินตามไอ้บิวไป มันหยิบของที่ต้องการใส่รถ

“เลือกของสดโคตรเก่ง เอวนิดเดียว ตัวก็บาง แขนก็เล็ก ฉันละอายใจวะที่เกิดมาไม่น่าทะนุถนอมเท่ามัน” ไอ้มีนกระซิบผม

“เออ แกไปเอาดีทางทอมไหมมีน” ผมกระซิบตอบมัน มันค้อนผมยกใหญ่

“ซื้อไปทำไมเยอะแยะวะบิว” มีนถาม

“ซื้อติดบ้านเอาไว้เลยไง”

“แอะ ซื้อตุนไปทำให้ใครกิน พูดดดด” ผมแซว มันทำหน้าตื่น แหมวุ้ย มันมีพิรุธจริงๆ

“ให้แด๊ดไง” มันตอบ ก้มหน้าเข็นรถงุดๆ โคนาวคุงต้องทำงานอีกซะแล้ว

“พี่เข็นให้ไหม” เสียงไอ้โหดครับ มันเดินมาแย่งรถเข็นจากไอ้บิว ไอ้บิวส่งยิ้มให้มัน ยิ้มโคตรหวานเลย

“ขอบคุณครับพี่ธีม” มันตอบ เอ๊ะๆ ทำไมไอ้บิวดูอายๆอย่างกับสาวแรกรุ่นโดนหนุ่มจีบ

“คิดเหมือนฉันไหมบีหนึ่ง” ไอ้มีนกระซิบถาม

“คิดเหมือนกันว่ะบีสอง” ผมกระซิบตอบ

“เสร็จแล้ว ไปจ่ายเงินก่อน” ไอ้บิวบอก

“เดี๋ยวพี่จ่ายเอง” บร๊ะๆๆๆ อาเสี่ยโหดกระเป๋าหนักเสียด้วย ผมขอย้อนกลับไปเหมาของใส่รถเข็นให้ก่อนได้ปะวะ มันจะได้จ่ายจนกระเป๋าฉีก

“ไม่เป็นไรครับพี่ธีม บิวซื้อของเข้าบ้านด้วย เดี๋ยวบิวจ่ายเอง”

“ไม่เป็นไร ใช้เงินค่าตัวนาวจากอีเวนท์วันก่อน เลี้ยงเพื่อนแค่นี้ ชิลเนอะ ใช่ไหมนาว” ไอ้โหดมันหันมาถามผม เหยดดดดดเข้ ไอ้พี่ธีมมมม เล่นมุขนี้เหรอ แต่อุ้ย.. ไอ้บิวหันมามองผมพอดี ต้องรีบยิ้มกว้างให้เพื่อน

“สบายมาก จัดไป” ผมตอบ เอาจริงๆเพื่อเพื่อนแค่นี้สบายมาก แต่ที่อยากด่าคือไอ้คนที่มันทำตัวเป็นป๋า แต่เจือกไม่ออกสักบาทเนี่ยครับ ไอ้หน้าด้านนนน

“ขอบใจนะนาว” ไอ้บิวหันมายิ้มหวานให้ผม เออ ไม่เป็นไรเลย แต่..ฉันขอใส่ถุงกลับบ้านด้วยละกันแก
จ่ายค่าของสดเสร็จ ไอ้หน้าด้านธีมก็ขับรถพาพวกเรามาถึงบ้านไอ้บิวครับ บ้านมันเป็นบ้านชั้นเดียวสไตล์วิคทอเรีย สวยดีผมชอบ มันอยู่คนเดียวครับ พ่อมันเพิ่งย้ายไปอยู่ห้องชุดสุดหรูใจกลางเมือง รู้มาจากไอ้บูมว่าพ่อมันกำลังจะแต่งงานใหม่ พวกผมช่วยกันขนของที่ซื้อมาเข้าไปไว้ในครัว ครัวของมันนี่เวอร์วังอลังการมากครับ ไม่ได้ใหญ่โต แต่มันฟูลออฟชั่นสุดๆ มีอุปกรณ์ครัวที่ทำทั้งของคาวของหวานทุกอย่างครบครัน มันบอกให้พวกผมไปนั่งรอที่ห้องรับแขก รอกินอย่างเดียวครับ ผมอาสาจะช่วย แต่มันรีบบอกว่าอยากกินเร็วๆและอร่อย ผมควรอยู่ไกลๆครัวมัน หนอยยย ผมทำไข่ต้มยางมะตูมเก่งนะไม่อยากจะคุย ยังไม่ทันจะเดินออกจาห้กองครัวแสนรักของไอ้บิว โทรศัพท์ของมันก็มีสายเข้า มันรีบกดตัดสาย ผมเลยเดินออกจากห้องครัวไป คิดว่ามันคงไม่สะดวกจะรับสายนี้ต่อหน้าคนอื่น มั่นใจแล้วแหละครับว่ามันต้องมีใคร แต่ถ้ามันยังไม่พร้อมให้เพื่อนรู้ ผมก็ไม่อยากเจือกหรอกครับ แม้ใจจะใฝ่รู้มากมายก็ตาม

ผมเดินออกมาก็เห็นไอ้มีนมันชวนไอ้ขาโหดคุยจ้อเลย พออยู่กับสาวๆละอ่อนโยนเชียวนะแก  ไอ้มีนชวนผมมานั่งข้างๆมัน มันหยิบกล่องเกมเศรษฐีขึ้นมา จัดแจงกางแผ่นกระดานเกมออก

“แกเอาตัวสีอะไร” มีนถามผม

“ทำไมไม่เล่นในโทรศัพท์วะ” ผมถามมันบ้าง

“เฮ้ย มันไม่คลาสสิก ต้องเล่นแบบทอยเอง ตกลงจะเอาสีอะไร พี่ธีมเอาสีอะไรคะ”

“เอาสีแดง”ผมบอกมัน

“พี่เอาสีดำก็ได้ครับ”

“งั้นมีนเอาสีขาว มาเล่นกัน”

“เน็ทมาเบิ้ลลลลลลลลล” ผมเลียนเสียงแบบเกมเศรษฐีในไลน์ แอบเห็นไอ้โหดมันยิ้มด้วย

“ยินดีต้อนรับค่ะ เริ่มเกมส์ มาดูกันว่าใครจะได้เล่นก่อน” ไอ้มีนเอาบ้างครับ เอาซะเหมือนเป๊ะเชียว ก๊ากกก

“คุณได้เล่นเป็นคนแรกค่ะ” ผมทำเสียงดัดจริตพูดแล้วชี้ไปที่ไอ้โหด มันทอยเต๋า แล้วเดิน เราเล่นกันไปเรื่อยๆ

“ขี้โกงอะ” ผมโวยวายเมื่อเดินไปตกเมืองของไอ้ธีมตลอดเลย จ่ายเงินค่าผ่านทางมันจนจะหมดตูดแล้วเนี่ย

“แกพาลมากไอ้นาว ทอยเองตกเองปะวะ” ไอ้มีนว่าผม

“เล่นคุณไสยชัวร์” ผมยังบ่นต่อ

“สร้างแลนด์มาร์ค” ไอ้โหดมันพูดขึ้นมาบ้าง ผมกับไอ้มีนหลุดหัวเราะเพราะหน้ามันไม่ให้ทำเสียงดัดจริตแบบนั้นเลยจริงๆ

“โอ้ย พี่ธีมฮาอะ มีนไม่คิดเลยนะว่าจะตลกมุ้งมิ้งได้” ไอ้มีนยังขำไม่หยุด ผมว่าควรใช้คำว่าติ๊งต๊องมากกว่ามุ้งมิ้งนะ

“ไม่นะ ฮือๆเมืองถูกยึดไปแล้ว” ผมกรีดร้อง อยากจะบ้า ตกเมืองมันอีกแล้ว หมดตูด ล้มละลาย เลิกเล่น!

“กระจอกว่ะ” มันยักไหล่บอกผม

“อ่อนให้หรอก เลิกๆไม่เห็นจะสนุก” แพ้เป็นพระ ชนะเป็นฟายเว้ย

“เสร็จแล้ว มาช่วยยกหน่อย” เสียงไอ้บิวตะโกนมาครับ

เย้ๆ ผมหิวตั้งแต่ตอนเล่นเกมแล้ว กลิ่นหอมๆมันลอยมายั่วตลอด ผมเห็นอาหารที่ไอ้บิวทำแต่ละอย่างยิ่งรู้สึกทึ่งกับความสามารถของเพื่อนคนนี้ รสชาติไม่ต้องพูดถึง เคยกินฝีมือมันหลายครั้งไม่เคยผิดหวังสักครั้ง เดี๋ยวนี้พัฒนาทั้งการตกแต่งจาน ทั้งการประยุกต์อาหารไทยกับอาหารฝรั่งเศสเข้าด้วยกัน มันลงตัวมาก นี่มันเทียบรสมือกับเชฟดังๆตามโรงแรมหรูๆได้เลยนะครับ ถ้ามันมีแฟน แฟนคงทั้งรักทั้งหลงแน่ๆเลย

“สุดยอดอะแก ยอมน้ำหนักขึ้นเลย” มีนมันทำหน้าพริ้มทุกครั้งที่ตักอาหารเข้าปาก เชื่อแล้วครับว่ามันอร่อยจริง

“น้ำหนักแกเคยลงด้วยเหรอวะ” ผมถาม

“ปากแกนี่นะ ยัดเนื้อแกะเข้าปากไปเลย” ไอ้มีนรีบจิ้มเนื้อแกะป้อนใส่ปากผมเลย

“เราเอาใส่กล่องให้เอากลับบ้านกันด้วย” บิวมันจัดใส่กล่องให้เอากลับไปกินต่อได้อีก น่ารักจริงๆ ส่วนไอ้โหดนี่นั่งกินเงียบเชียวนะ อร่อยฝีมือเพื่อนฉันอะดิท่า

“พี่ไปเติมน้ำก่อน ใครจะเอาน้ำบ้าง” ไอ้โหดมันถามพวกผม

“บิวลืมหยิบน้ำมาให้เลย เดี๋ยวไปเอาให้ครับ”

“ไม่เป็นไร บิวกินไปเถอะ พี่ไปเอาเอง” มันบอกแล้วเดินเข้าไปในครัว

“บิว โทรศัพท์มีสายเข้าครับ” ไอ้โหดมันชะโงกหน้าออกมาบอก ผมไม่เห็นได้ยินเสียงโทรศัพท์เลย ไอ้บิวรีบลุกพรวดเดินเข้าไปในครัวอย่างรับร้อน สักพักไอ้โหดเดินออกมา วางเหยือกน้ำเย็นลงที่โต๊ะ

“วันนี้นาวต้องไปซ้อมเดินแบบรึเปล่า” ผมถามมัน

“ไม่ต้อง พี่บอกแม่ให้แล้วว่าขอไปพรุ่งนี้”

“เออจริงด้วย พี่ธีม มีนรู้มาว่าจะมีเจ้าชายจากประเทศบัณตรามาร่วมงานนี้ด้วยใช่ไหมคะ”

“ประเทศอะไรวะ ไม่เคยได้ยินเลย” ผมหันไปถามเพื่อน ไม่เคยได้ยินจริงๆครับ

“ปกติเขาเป็นประเทศปิดเพราะมีปัญหาเรื่องการเมืองภายในประเทศ ตอนนี้เปลี่ยนการปกครองแล้ว  กษัตริย์องค์ปัจจุบันเตรียมจะสละราชบัลลังก์ให้พระโอรส แก เขาว่าพระโอรสหล่อมากด้วยนะ แล้วประเทศเขาก็สวยมากด้วย เป็นเกาะเล็กๆแต่ทรัพยากรทางธรรมชาติสมบูรณ์มาก”

“ทำไมแกรู้ละเอียดจัง” ผมถามไอ้มีน

“ก็ฉันคือมีนผู้รอบรู้” มันยืดอกภูมิใจในการสอดรู้ เอ้ย รอบรู้ของมัน

“ใช่ครับ มาร่วมงานนี้ด้วย แม่ของเจ้าชายเป็นเพื่อนสนิทแม่พี่เอง”ไอ้โหดบอกกับไอ้มีน นี่คุณเมรู้จักกับเหล่าราชวงศ์ประเทศชื่อแปลกๆนี่เชียวเหรอวะ 

“เขาเรียกพระสหาย เสร่ออะ” ผมค่อนขอดไอ้พี่โหด

“ใครจะลิเกเก่งเหมือนนาวละ” มันย้อน อย่าแปลกใจครับ ต่อหน้าเพื่อน ผมและมันยังพอมีมารยาทไม่ตวาดใส่กันพร่ำเพื่อครับ ไอ้บิวเดินออกมาแล้ว หน้าตามันเครียดๆพิกล ผมกำลังจะเอ่ยถามมัน แต่ไอ้โหดมันแทรกขึ้นมาก่อน

“พี่ว่าเดี๋ยวเรากลับกันเถอะ มากวนน้องบิวนานแล้ว” ผมมองหน้าไอ้โหด รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไร

“งั้นช่วยบิวล้างจานก่อน” ผมบอก

“ไม่เป็นไรๆ กลับกันได้เลย เดี๋ยวเราจัดการเอง อย่าลืมเอาสเต็กกลับไปด้วยนะ” ไอ้บิวบอก

แปลกมาก ถ้าปกติแล้วผมไม่ได้กลับกันง่ายๆหรอก ก็ไอ้บิวเป็นคนขี้เหงา ถ้าลองได้มาบ้านมัน ยากที่พวกผมจะได้กลับ มันจะหาโน้นหานี้มาให้ทำเพื่ออยู่กับมันนานๆ ผมว่ามันต้องมีอะไรระหว่างไอ้โหดกับไอ้บิวแน่ๆ เมื่อกี้ไม่เห็นได้ยินเสียงโทรศัพท์ แล้วก่อนไอ้โหดจะเดินออกมามันได้คุยอะไรกับบิวรึเปล่า แต่เอาเถอะ ความลับไม่มีในโลกครับ ผมจะต้องรู้ให้ได้ว่าไอ้บิวมันมีความลับอะไร จากที่ไม่อยากรู้ ตอนนี้อยากรู้มากแล้วครับ   


โปรดติดตามตอนต่อไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-05-2017 13:11:51 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
สนุกน้าาา ชอบค่ะชอบบ :man1:
ธีมนายมีซัมติงรองกับบิวใช่ม๊ายยยยยยย :katai1: :katai1: ไม่ได้น้าาาาาาา นายรักซินโดเรล่าแมนไม่ใช่หรอ? มันคือไรรรรรรร  :serius2:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ความลับเยอะจริงเรื่องนี้ ตามลุ้นไม่ถูกเลยใครจะคู่ใคร

ออฟไลน์ RedQueen

  • Memois Of A Calamity Queen
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ติดใจที่เจ้าชายมากฟ่า อยากเห็นแล้วซี :hao7:

ออฟไลน์ dekzappp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 271
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
ธีมมมมม นายแม่งน่ารักอ่ะ!! เป็นได้แค่คนแอบรัก คอยห่วงอยู่ข้างๆ โหววว พระเอก!

อย่างน้อยนาวก็มีหวั่นไหวกับแกนะเว้ย สู้เขาๆ

ออฟไลน์ fanglest

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
เฮ้ยย หรือบิวจะชอบธีมว้าาา
ธีม
แกเป็นเจ้าชายรึเปล่าวะ
น่าสงสัย อาจเป็นไปได้ (มั้ง)
 :hao3:

ออฟไลน์ MeganMP

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
น่อวววววววสนุกกกกกก ตัวละครน่าสนใจทุกตัวเลย ติดตามค่าาง :hao3: :hao3: :hao3:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด