บทเรียนชุดที่1  บทที่2
Sign in to Google to save your progress. Learn more
เรื่อง มนุษย์ตกอยู่ในความบาป
       มนุษย์ตกอยู่ในความบาป
       เป็นเวลานานแล้วที่พระเจ้าได้ทรงสร้างมนุษย์ขึ้น  ในขณะนั้นไม่มีความบาป ความเกลียดชัง  การสงคราม  ความป่วยไข้ หรือความตายอยู่ในโลกเลย   มีแต่ความสุข สงบและสันติสุขมนุษย์คนแรกของโลกมีความสัมพันธ์ใกล้ชิด กับพระเจ้ามาก พระคัมภีร์ได้กล่าวถึงเรื่องในตอนนี้ว่า พระเจ้าทรงปลูกสวนแห่งหนึ่งไว้ที่เอเดน   ทางทิศตะวันออกและให้มนุษย์ที่พระองค์ทรงปั้นมานั้นอยู่ที่นั่น   แล้วพระเจ้าทรงให้ต้นไม้ทุกชนิดที่งามน่าดูและที่น่ากินเป็นอาหารงอกขึ้นจากดิน   มีต้นไม้แห่งชีวิตต้นหนึ่งอยู่ท่านกลางสวนนั้น    กับต้นไม้แห่งความสำนึกในความดีและชั่วต้นหนึ่ง   (ปฐมกาล 2:8-9)
     พระบัญชาข้อใหญ่ยิ่งของพระเจ้า คือพระเจ้าจึงทรงบัญชาแก่มนุษย์นั้นว่า  บรรดาผลไม้ทุกอย่างในสวนนี้เจ้ากินได้ทั้งหมด  เว้นแต่ต้นไม้แห่งความสำนึกในความดีและความชั่ว  ผลของต้นไม้นั้นอย่ากิน  เพราะในวันตายที่เจ้าขืนกิน  เจ้าจะต้องตายแน่(ปฐมกาล 2:16-17)
แต่แล้วในวันหนึ่ง  ซาตานซึ่งมีชื่ออีกชื่อหนึ่งว่าพญามาร  ได้ย่างกรายเข้ามาในสวนเอเดนในร่างของงูชั่ว  มันเริ่มล่อลวงชายหนุ่มคนแรกที่ชื่ออาดัมและเอวาภรรยาของเขาด้วย   อาดัมและเอวาหลงเชื่อคำล่อลวงของพญามาร   และเริ่มไม่เชื่อฟังพระคำของพระเจ้า   เขาเชื่อฟังคำพญามารและเดินไปตามทางของมัน
    ในบรรดาสัตว์ป่าที่พระเจ้าสร้างนั้น  งู  ฉลาดกว่าหมด  มันถามหญิงนั้นว่า  จริงหรือที่พระเจ้าตรัสห้ามว่า   อย่ากินผลจากต้นไม้ใดๆในสวนนี้  หญิงนั้นจึงตอบงูว่า ผลของต้นไม้ต่างๆในสวนนี้เรากินได้  เว้นแต่ผลของต้นไม้ที่อยู่ท่านกลาง   พระเจ้าตรัสห้ามว่า  อย่ากินหรือถูกต้องเลย    มิฉะนั้นจะตาย   งูจึงพูดกับหญิงนั้นว่า   เจ้าจะไม่ตาย จริงดอก  เพราะพระเจ้าทรงทราบอยู่ว่า   เจ้ากินผลไม้นั้นวันใด   ตาของเจ้าจะสว่างขึ้นในวันนั้น   แล้วเจ้า จะเป็นเหมือนพระเจ้า  คือสำนึกในความดีและความชั่ว  เมื่อหญิงนั้นเห็นว่า  ต้นไม้นั้นนั่นกิน และน่าดูด้วย  ทั้งเป็นต้นไม้ที่มุ่งหมายจะให้เกิดปัญญาจึงเก็บผลไม้นั้นมากิน  แล้วส่งให้สามีกินด้วยเขาก็กิน(ปฐมกาล3:1-6) นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นมา  ความบาป  ความป่วยไข้  และความตายได้มีขึ้นในโลก   สาเหตุเนื่องจากมนุษย์ได้เชื่อฟังและเดินตามทางของพญามาร   ฉะนั้นพระเจ้าจึงต้องสาปแช่งโลกทั้งโลกเพราะความบาปของเขา   พระองค์ทรงนำอาดัมและเอวาออกจากสวนเอเดน    และขับไล่เขาไปให้พ้นพระพักตร์ของพระองค์   และนับแต่วันนั้นมา มนุษย์ก็ถูกแยกจากพระเจ้าองค์เที่ยงแท้ผู้ทรงพระชนม์
    ทางเดียวที่เขาจะกลับไปหาพระเจ้า และมีชีวิตนิรัดร์ได้อีก  ก็โดยการเชื่อและวางใจในองค์บริสุทธิ์  ผู้ซึ่งเป็นพระเมษโปดกของพระเจ้าองค์ที่ได้แบกความผิดบาปของโลกไว้แล้ว
     เพราะเหตุนั้นพระเจ้าจึงทรงขับไล่เขาออกไปจากสวนเอเดน  ให้ไปทำไร่ทำสวนในที่ดินที่ตัวถือกำเนิดมานั้น  พระองค์ทรงไล่ชายนั้นออกไป และทรงตั้งพวกเครูบ  ทางด้านทิศตะวันออกแห่งสวนเอเดน  และตั้งกระบี่เพลิงอันหนึ่งที่หมุนได้รอบทิศ   ไว้เฝ้าทางที่จะเข้าไปสู่ต้นไม้แห่งชีวิตนั้น(ปฐมกาล3:23-24)
  เครูบ   หมายถึงทูตสวรรค์จำพวกหนึ่ง  นับแต่นั้น   วันที่มนุษย์หมดสิทธิ์ที่จะอยู่ในสวนเอเดน  มนุษย์ต้องเผชิญแต่ความทุกข์ยากลำบาก ความบาป  คือสงคราม  ความเกียดชังความป่วย  ความเศร้าโคกและความตาย สืบทอดกันมานับเป็นพันๆปี
      เนื่องจากมนุษย์คู่แรกได้ทำบาป  ความบาปและความตายจึงได้ติดตามยังมนุษย์ทุกสมัย ความบาปในจิตของมนุษย์เริ่มมีอิทธิพลเหนือเขาตั้งแต่นั้นมาดังนั้น  ลูกของอาดัมและเอวา  คือ คาอินและอาแบล จึงเกลียดและเข่นฆ่ากันตลอดประวัติศาสตร์โลก  มนุษย์ต้องใต้กฎแห่งบาป    ความเกลียด  และการฆ่าฟัน   ทั้งนี้เพราะมนุษย์ทั้งโลกสืบเชื้อสายมาจากมนุษย์คู่แรกที่พระเจ้าได้ทรงสร้างนั้น  
    พระคริสตธรรมคัมภีร์ซึ่งเป็นพระคำของพระเจ้าบอกเราว่า
  - เหตุฉะนั้น  เช่นเดียวกับบาปได้เข้ามาในโลกเพราะคนๆเดียว  และความตายก็เกิดมาเพราะบาปนั้น  และความตายก็ได้แผ่ไปถึงมวลมนุษย์ทุกคนทั้งบาป (โรม5:12
  - เพราะว่าทุกคนทำบาป และเสื่อมจากพระสิริของพระเจ้า (โรม3:23)
  - ไม่มีผู้ใดเป็นคนชอบธรรมสักคนเดียว ไม่มีเลย ไม่มีคนที่เข้าใจ  ไม่มีคนที่แสวงหาพระเจ้า  เขาทุกคนหลงผิดไปหมด เขาทั้งปวงเลวทรามเหมือนกันสิ้น ไม่มีสักคนเดียวที่กระทำดี  ไม่มีเลย(โรม3:10-12)
  - เราทั้งหมดเป็นทาสของความบาปและตกอยู่ภายใต้อำนาจการควบคุมของพญามารพระเยซูตรัสว่า   เราบอกความจริงแก่ท่านว่า ทุกคนที่ทำบาปก็เป็นทาสของบาป เหตุฉะนั้นถ้าพระบุตรทรงกระทำให้ท่านทั้งหลายเป็นไท  ท่านก็เป็นไทจริงๆ(ยอห์น8:34-36)
     ผู้ที่กระทำบาปก็มาจากมารเพราะว่ามารได้กระทำบาปตั้งแต่แรกพระบุตรของพระเจ้าได้เสด็จมาปรากฏ  ก็เพราะเหตุนี้   คือเพื่อทรงทำลายกิจการของมาร ความตายเป็นผลอันเนื่องมาจากความบาปของเรา พระเจ้าตรัสว่า จิตวิญญาณที่ได้ทำบาป  จิตวิญญาณนั้นจะตายเอง
  - เพราะว่าค่าจ้างของความบาปคือความตายแต่ของประทานจากพระเจ้าคือชีวิตนิรันดร์ในพระเยซูคริสต์  องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา (โรม6:23)เราจะถูกพิพากษาโทษเพราะการบาปของเรา
  - มีข้อกำหนดสำหรับมนุษย์ไว้แล้วว่าจะตายครั้งเดียว  และหลังจากนั้นก็จะมีการ
พิพากษา(ฮีบรู9:27) พระเจ้าจะทรงพิพากษาการบาปของเราในวันพิพากษาอันใหญ่ยิ่งนั้นพระเจ้าทรงมีพระดำรัสว่า อย่าประหลาดใจในข้อนี้เลย   เพราะใกล้จะถึงเวลาที่บรรดาผู้ที่อยู่ในอุโมงฝังศพจะได้ยินพระสุรเสียงของพระองค์ และ จะได้ออกมาบรรดาผู้ที่ได้ประพฤติดีก็ฟื้นขึ้นสู่ชีวิต  บรรดาผู้ที่ได้ประพฤติชั่วก็จะฟื้นขึ้นสู่การพิพากษา (ยอนห์5:28-29)

      บรรดาประชาชาติต่างๆ จะประชุมพร้อมกันต่อพระพักตร์พระองค์และพระองค์จะทรงแยกมนุษย์ทั้งหลายออกเป็น 2 พวก เหมือนอย่างผู้เลี้ยงแกะออกจากแพะ  ขณะนั้นพระมหากษัตริย์จะตรัสแก่บรรดาผู้ที่ผู้ที่อยู่เบื้องขาวพระหัตถ์ของพระองค์ว่า  ท่านทั้งหลายตั้งแต่แรกสร้างโลก   พระองค์จะตรัสกับบรรดาผู้ที่อยู่เบื้องซ้ายพระหัตถ์ของพระองค์ว่า  ท่านทั้งหลายผู้ต้องแช่งสาป จงถอยไปจากเรา  เข้าไปอยู่ในไฟซึ่งไหม้อยู่เป็นนิตย์ ซึ่งเตรียมไว้สำหรับมารร้ายและสมุนของมันนั้น  และพวกเหล่านี้จะต้องออกไปรับโทษอยู่เป็นนิตย์  แต่ผู้ชอบธรรมจะเข้าสู่ชีวิต  นิรันดร์
(มัทธิว 25:32,34,41,46)
      เมื่อพระเจ้าได้ทรงเห็นว่า  คนทั้งหลายจมอยู่ในห้วงของความบาป   และจะต้องพินาศชั่วนิรันดร์  พระองค์จึงได้ส่งบุคคลผู้หนึ่งมาตายแทนที่เรา  พระองค์กลายเป็นตัวแทนของเรา และรับโทษบาปแทนเราด้วย ความรักที่ข้าพเจ้าพูดถึงนี้มิใช่ที่เรารักพระเจ้า   แต่ที่พระองค์ทรงรักเราและทรงใช้พระบุตรของพระองค์มาทรงเป็นผู้ลบล้างพระอาชญาที่ตกกับเราทั้งหลายเพราะบาปของเรา(1ยอห์น4:10)
“พระองค์เองได้ทรงรับแบกบาปของเราไว้ในพระกายของพระองค์ที่ไม้นั้น  เพื่อว่าเราทั้งหลายจะได้ตายจากบาปได้ และดำเนินชีวิตตามคลองธรรม” (1เปโตร2:24)
Next
Clear form
Never submit passwords through Google Forms.
This content is neither created nor endorsed by Google. Report Abuse - Terms of Service - Privacy Policy