รับซื้อเหรียญเก่า

รับซื้อเหรียญเก่าทุกชนิด ให้ราคาสูงที่สุด
รับซื้อเหรียญกษาปณ์ สมัยรัชกาลที่4 – รัชกาลที่9
เหรียญที่ระลึกสมัยรัชกาลที่ 5
รับซื้อเหรียญทองคำ  รับซื้อเหรียญเงิน-ขัดเงา
รับซื้อเหรียญต่างประเทศ  รับซื้อเหรียญจีน
หยวนซือไข่ เทรดดอลล่าร์ มังกรจีน
เหรียญอินโดไซน่า(หัวหนาม) เหรียญอาณานิคมสเปน
รับซื้อเหรียญแพรแถบ เครื่องราชย์ฯ

เหรียญกษาปณ์คือ?

เหรียญกษาปณ์ สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ เหรียญกษาปณ์หมุนเวียน และ เหรียญกษาปณ์ที่ระลึก หากจะอธิบายแบบสั้นๆ เหรียญกษาปณ์หมุนเวียน คือเหรียญที่ผลิตขึ้นเพื่อใช้จ่ายหมุนเวียนในชีวิตประจำวัน เช่น เหรียญ 1 บาท เหรียญ 5 บาท เหรียญ 10 บาท ส่วนเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก คือ เหรียญที่ผลิตขึ้นเพื่อระลึกถึงวาระสำคัญต่างๆ ซึ่งเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกในประเทศไทยเหรียญแรก คือ “เหรียญทวารวดี” ที่ด้านหลังจารึกเป็นภาษาสันสกฤตว่า “ศรีทวารวดี ศวรปุณย” แปลว่า บุญกุศลของพระราชาแห่งศรีทวารวดี   แต่ถ้าจะให้เห็นภาพง่ายกว่านั้น ให้ลองนึกถึงเหรียญที่ระลึกรัชกาลที่ 5 เช่น เหรียญปราบฮ่อ เป็นต้น

ประวัติเหรียญกษาปณ์ไทย

     “เหรียญกษาปณ์” หรือ “เงินตรา” ถือได้ว่าเป็นของสะสมชนิดหนึ่ง ซึ่งนิยมเล่นหากันอย่างแพร่หลายทั่วโลกมาตั้งแต่อดีต เหรียญกษาปณ์เป็นสิ่งที่มีมูลค่าในตัวเอง บางเหรียญก็แฝงไว้ด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์ สามารถเชื่อมโยงบอกเล่าประวัติความเป็นมาของประเทศนั้นๆได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกันการสะสมเหรียญกษาปณ์ก็ถือว่าเป็นการลงทุนรูปแบบหนึ่งที่ให้ผลตอบแทนที่ดีมาก เพราะว่าเหรียญเหล่านี้มีมูลค่าและราคาสูงขึ้นทุกปี

จากการศึกษาค้นคว้าและหลักฐานต่างๆ พบว่า การใช้เงินตราที่เป็นสื่อกลางในการจับจ่ายใช้สอยบนผืนแผ่นดินไทย มีมาตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 6-11 ในนาม “เหรียญฟูนัน” ต่อมาในพุทธศตวรรษที่ 11-16  มี “เหรียญทวารวดี” เป็นรูปหม้อน้ำปูรณกลส  วัว และหอยสังข์  จนกระทั่งชนชาติไทยสามารถรวมตัวเป็นปึกแผ่น ในยุคสมัยกรุงสุโขทัย ได้มีการผลิต “เงินพดด้วง” ขึ้นใช้ และใช้กันต่อมาจนถึงยุคกรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรี  และตอนต้นของกรุงรัตนโกสินทร์

ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 3 ได้มีการริเริ่มผลิตเหรียญแบนขึ้นเป็นครั้งแรก คือ เหรียญดอกบัว-เมืองไท และ เหรียญช้าง-เมืองไท แต่ไม่ได้นำออกใช้จริง จนกระทั่งในสมัยรัชกาลที่ 4 ได้มีการผลิตเหรียญแบนเพื่อออกใช้หมุนเวียนจริง และเหรียญแบนก็ถูกผลิตและใช้งานอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

ราคาเหรียญขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง?

เมื่อผ่านกาลเวลายาวนานร่วมร้อยปี เหรียญโบราณเหล่านี้ก็กลับกลายเป็นของหายาก และเป็นที่ต้องการของนักสะสม ยิ่งสภาพสวยก็ยิ่งมีราคาสูง ดังนั้นวิธีการเก็บรักษาเหรียญจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก นักสะสมในสมัยก่อนนิยมซื้ออัลบั้มใส่เหรียญที่มีช่องเหรียญ แล้วทำการบรรจุเหรียญลงในช่องโดยปราศจากสิ่งห่อหุ้ม พอผ่านไปหลายปีกลับมาเปิดดูอีกทีปรากฏว่าเหรียญเหล่านั้นมีการเปลี่ยนแปลงของผิว กล่าวคือ จากเหรียญสีขาวผ่องใส กลายเป็นเหรียญสีหม่น  แต่ถ้าเกิดว่าผ่านไปในระยะเวลาที่นานมาก อาจเกิดคราบสนิม หรือคราบไขสีเขียว ซึ่งบางทีคราบเหล่านั้นอาจกัดกินเนื้อผิวเหรียญได้ เพราะฉะนั้นถ้าไม่อยากให้เหรียญที่ท่านสสะสมไว้เสื่อมสภาพ ควรจัดเก็บให้ถูกวิธี โดยอาจจะทำการซีลซองแก้วก่อนบรรจุลงช่องในอัลบั้ม หรือ เย็บเหรียญใส่เมาท์ ก็จะช่วยรักษาผิวเดิม และทำให้สามารถเก็บรักษาได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

อันที่จริงมูลค่าราคาซื้อขายของเหรียญกษาปณ์ในแต่ละรุ่นนั้น ถูกกำหนดด้วยปัจจัยหลายอย่าง แต่ถ้าตามหลักสากลจะประกอบด้วยปัจจัย 3 ประการได้แก่

1.ปัจจัยด้านจำนวน(Rarity) ถือเป็นปัจจัยหลักที่นักสะสมควรให้ความสำคัญลำดับต้นๆ เนื่องจากเป็นตัวสะท้อนถึงปริมาณเหรียญในระบบคร่าวๆ โดยอาศัยสถิติที่บันทึกไว้เป็นข้อมูลสำหรับเหรียญรุ่นนั้นๆ นักสะสมพึงระลึกเสมอว่า จำนวนน่าที่น่าจะมีอยู่จริงหรือความหายากนั้น อาจไม่สอดคล้องกับจำนวนการผลิตเหรียญก็เป็นได้ เช่น เหรียญกษาปณ์หมุนเวียนบางรุ่นอาจมียอดการผลิตสูง แต่ในทางปฏิบัติมีเหตุให้ต้องนำออกมาใช้จริงในระบบเพียงบางส่วน เช่นเดียวกับการเหรียญกษาปณ์ถูกเรียกคืน เพื่อนำมายุบหลอมทำลาย สิ่งนี้เป็นเหตุทำให้เหรียญกษาปณ์รุ่นนั้นๆ หายไปจากระบบเป็นจำนวนมาก

2.ปัจจัยด้านความสมบูรณ์ของเหรียญ (Coin granding) การที่เหรียญใดเหรียญหนึ่งจะมีความแตกต่าง โดดเด่น ไปกว่าเหรียญอื่นๆในรุ่นเดียวกัน ก็คือการรักษาสภาพของเหรียญนั้นๆ ให้มีความสวยงามเหมือนเมื่อครั้งผลิตใหม่ๆ โดยเหรียญกษาปณ์ที่เก็บรักษาสภาพเดิมได้เป็นอย่างดี จะมีมูลค่าสูงกว่าเหรียญในรุ่นเดียวกัน เหตุผลเพราะ เหรียญกษาปณ์ถูกผลิตขึ้นเป็นวัตถุใช้หมุนเวียนที่ต้องเกิดการสึกหรอ การเก็บเหรียญกษาปณ์ที่ถูกต้องตามหลักวิชาการโดยไม่นำมาใช้ จนเหรียญกษาปณ์คงสภาพเดิมได้ จะทำให้เหรียญนั้นๆ กลายเป็นวัตถุที่ทรงคุณค่า

3.ปัจจัยด้านความนิยม (Popularity ) เหรียญกษาปณ์จะผลิตขึ้นในรูปแบบวาระและวัตถุประสงค์ที่ต่างกันมักพบเสมอว่าเหรียญที่ออกแบบได้สวยงามผลิตในวาระสำคัญ หรือมีเรื่องราวบางอย่างในเหรียญมักจะได้ความนิยมในนักสะสมเป็นพิเศษ แม้จะมียอดการผลิตมากก็อาจไม่เพียงพอต่อความต้องการด้วยเหตุนี้ อาจทำให้เหรียญกษาปณ์รุ่นดังกล่าวมีมูลค่าสูง

ด้วยปัจจัยที่กล่ามา  3 ประการ ล้วนเป็นเหตุผลให้เหรียญกษาปณ์มีมูลค่าทางการตลาดที่แตกต่างกันออกไป

จะเก็บรักษาเหรียญได้อย่างไรบ้าง?

แต่ทว่าเมื่อเกิดคราบสกปรกขึ้นบนเหรียญแล้ว นักสะสมบางส่วนก็เลือกที่จะทำความสะอาดเหรียญเพื่อให้มีความคมชัด หรือโทนสีผิวที่ถูกใจตัวเองมากยิ่งขึ้น วิธีการทำความสะอาดเหรียญของนักสะสมแต่ละท่านอาจจะแตกต่างกันออกไป เช่น เหรียญเนื้อเงิน ก็จะขัดด้วยน้ำยาบรัสโซ ซึ่งวิธีการนี้เป็นวิธีการที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง เพราะอาจจะทำให้พื้นผิวเหรียญเกิดความเงา และแรงขัดถูจะทำให้ลวดลายบนเหรียญสึกหลอได้ วิธีการทำความสะอาดเหรียญเนื้อเงินที่ดีที่สุด คือการล้างด้วยน้ำยาล้างเงินโดยเฉพาะ  ขณะที่เหรียญเนื้อทองแดง ก็นิยมใช้การแช่โลชั่น หรือ เครื่องดื่มชูกำลัง (เช่น กระทิงแดง M150) เพื่อให้คราบสกปรกที่ฝังแน่นหลุดลอกออกไป แต่ถ้าเป็นเหรียญเนื้อทองคำ ไม่แนะนำให้ทำความสะอาดทุกกรณี เพราะจะทำให้เสียราคาได้ ทางที่ดีเราควรการเก็บรักษาเหรียญในสภาพเดิมที่สุด เพราะเมื่อถึงเวลาที่ต้องการขายเหรียญ ก็จะสามารถขายเปลี่ยนมือได้ง่ายกว่าเหรียญที่ผ่านการทำความสะอาด  และปัจจัยสำคัญอีกอย่างที่เป็นตัวกำหนดราคาเหรียญกษาปณ์ ก็คือ ความหายาก

เหรียญที่ใช้ในชีวิตประจำวัน สะสมกันไหม?

ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมานี้ ท่านอาจจะได้ยินข่าวเกี่ยวกับการประกาศรับซื้อหมุนเวียนเหรียญรัชกาลที่ 9 ซึ่งทำให้ก่อนที่จะหยิบเหรียญออกมาใช้ซื้อของแต่ละครั้ง ต้องตรวจเช็คปี พ.ศ. ว่าตรงกับปีหายากที่ระบุไว้ในประกาศหรือไม่ เช่น รับซื้อเหรียญ 5 บาท ปี พ.ศ.2540 ซึ่งผลิตเพียง 10,600 เหรียญ (เทียบกับปีอื่นผลิตหลักล้านเหรียญ) ในราคาสูงถึงเหรียญละ 5,000 บาท  หรือการประกาศรับซื้อเหรียญ 50 สตางค์ ปี พ.ศ.2530 ในราคาเหรียญละ 5,000 บาท เพราะมีจำนวนผลิตน้อยเพียง 1,000 เหรียญเท่านั้น หรือแม้กระทั่งเหรียญหายาก อย่างเหรียญเงิน 600 บาท (ชนิดขัดเงา) เจ้าฟ้านักวิจัย ซึ่งผลิตเพียง 212 เหรียญ

เมื่อสองปีที่แล้วเล่นหาเพียงหลักหมื่น  แต่ ณ ปัจจุบัน  ตลาดสะสมเล่นกันไปกว่าสามแสนบาท จุดนี้แสดงให้เห็นว่าเหรียญที่ผลิตน้อย เป็นที่ต้องการของนักสะสม จะสามารถขายได้ในราคาสูง

ร้านรับซื้อเหรียญเก่า ที่ไหนดี?

สำหรับท่านที่เป็นนักสะสมเก่า ต้องการเลิกสะสม ย้ายบ้าน หรือหาเงินลงทุนทำธุรกิจใหม่ และกำลังมองหาร้านรับซื้อเหรียญเก่า  “Wincoin” เป็นร้านรับซื้อเหรียญเก่าเพื่อการสะสม ที่บริหารงานโดย “คุณวิน” นักสะสมที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ท่านจึงมั่นใจได้ว่าของสะสมของท่านจะได้รับการประเมินราคาที่สูงที่สุด และข้อมูลการซื้อขายทุกอย่างจะถูกเก็บเป็นความลับ  โดยทางร้านมีบริการที่ครอบคลุมเกี่ยวกับการรับซื้อของสะสมมีค่าทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น รับซื้อเหรียญเก่า รับซื้อธนบัตรเก่า รับซื้อเงินโบราณ เงินพดด้วง รับเช่าพระเครื่องพระบูชา และรับซื้อของเก่าของโบราณ ผมยินดีให้คำปรึกษาทุกท่านฟรี  โทร 096-818-8188 (คุณวิน) หรือ Line@ : @wincoin555 (มี @ นำหน้าด้วยครับ) และทางร้าน Wincoin ยินดีจ่ายค่านายหน้า สำหรับคนที่นำพาไปซื้อของด้วยครับ